Ramada

จาก SuikoFriendWiki, สารานุกรมฟรี

(Redirected from Ramada (Suikoden))
Jump to: navigation, search

RAMADA/DATA

ชื่อ : Ramada / ラマダ / ลามาด้า, ลามาดะ
ดาราสถิต : Tenritsusei / 天立星
ภาคที่มีบทบาท : ภาค 4, Rhapsodia(เป็นผู้ว่าจ้างใน Quest)
อายุ : 28(4)
ส่วนสูง : 180 cm
ถิ่นเกิด : ไม่ปรากฏชัดเจน
สกิลพิเศษ : อึดพอๆ กับแมลงส......
เรื่องที่มักโดน(แฟนๆ) ถาม :

  • โดนเข้าไปขนาดนั้น รอดมาได้ยังไงล่ะท่าน?
  • บอกวิธีเสริมความอึดถึกให้หน่อยเถอะ?
  • หัวหน้าทีมนักรบแสงสว่าง!

Ramada ในภาค4

Enlarge

วิธีการได้เป็นพวก : จะได้เขาเป็นพวกตามเนื้อเรื่องพร้อมกับอาคากิและมิซึกิหลังจากที่เขามาลอบสังหารลาสโล

ลามาด้าเป็นลูกน้องคนหนึ่งพ่อค้าแห่งความตายเกรฮัมเคร ดูผิวเผินดูเหมือนเป็นคนขี้ขลาดใจเสาะ แต่จริงๆ แล้วจะทำสิ่งต่างๆ โดยคิดคำนวนผลไว้ ช่างเจรจาและแต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ก็พร้อมจะเสี่ยง นอกจากนั้นก็เป็นคนที่รักและเอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างมากด้วย โดยเขามีลูกน้องที่ไว้ใจและซื่อสัตย์ต่อเขาอยู่ 2 คนคือสองนินจาอาคากิและมิซึกิ และมีนกขนาดใหญ่เป็นสัตว์เลี้ยง
ลามาด้ารับหน้าที่มาติดต่อซื้อขายเกี่ยวกับปืนใหญ่เวทมนตร์ขนาดใหญ่ให้คูลูคที่มิดเดิลพอร์ทโดยมีอาคากิและมิซึกิติดตามไปด้วย เมื่อเสร็จแล้วเขาได้ไปที่ราสริล แกล้งทำเป็นพ่อค้าธรรมดาโดยใช้ชื่อว่าบริษัทขนส่งโอลาค และขอร้องให้ทางกองอัศวินสมุทธไกเอ็นช่วยคุ้มกันให้ระหว่างการเดินทางไปยังเกาะอิลุยะเพราะกังวลเรื่องที่อาจจะมีมอนสเตอร์มาโจมตีแต่แท้จริงแล้วพวกเขากลัวว่าอาจจะมีโจรสลัดมาโจมตีเพื่อแย่งสินค้าเกี่ยวกับปืนใหญ่เวทมนตร์ โดยกองอัศวินสมุทธไกเอ็นได้มอบหมายให้สโนว์ทำหน้าที่นายเรือของกองเรือคุ้มกันโดยมีลาสโลเป็นผู้ช่วย
ในการเดินทางนั้นมีกลุ่มโจรสลัดบรันด์เข้ามาโจมตีจริงๆ กองเรือของพวกลามาด้าหนีรอดไปได้อย่างปลอดภัยเพราะได้กองเรือคุ้มกันช่วยสกัดโจรสลัดบรันด์เอาไว้แต่ลามาด้าก็สังเกตถึงแสงและเสียง ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของตราแห่งการลงทัณฑ์ที่เกรฮัมเครกำลังตามหา
เมื่อทราบว่ากลุ่มโจรสลัดบรันด์ล่มสลายแล้ว อีกทั้งเกล็นหัวหน้ากองอัศวินก็ล้มป่วย เพื่อพิสูจน์ว่าใครบางคนในกองอัศวินไกเอ็นเป็นผู้ครอบครองตราแห่งการลงทัณฑ์จริงหรือไม่ ลามาด้าจึงได้ว่าจ้าง กลุ่มโจรสลัดของดาริโอให้เข้าโจมตีราสริลเพื่อบีบให้ใครก็ตามที่ครอบครองตราอยู่ ใช้พลังของตราออกมา โดยการโจมตีในครั้งแรกเป็นการหยั่งเชิง และในครั้งที่ 2 ลามาด้าได้ใช้ให้นกของตนไปดักจัดการกับนกนาเซลซึ่งทำหน้าที่แจ้งข่าวสารของกองอัศวินเสีย ซึ่งเขาได้รู้เรื่องนกนาเซลคาตาริน่ากับสโนว์หลุดปากพูดออกมา ทำให้กองอัศวินไม่ได้รับแจ้งเรื่องที่โจรสลัดมาบุกซ้ำ และต้องตั้งรับอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งในที่สุด ตราสัญลักษณ์ก็ถูกใช้ออกมาจนได้
ลามาด้ารายงานเรื่องนี้ต่อเกรฮัมเคร และได้รับคำสั่งให้หาตัวผู้ถือตราให้พบ แล้วสังหารเพื่อชิงตรามาซะ ลามาด้าพร้อมด้วยอาคากิและมิซึกิจึงไปที่โอเบลเพื่อลอบสังหารลาสโลและแย่งชิงตรา แต่ก็พลาดท่าพ่ายแพ้และถูกจับตัวได้ ลามาด้าสารภาพเรื่องที่ต้องการมาชิงตราแต่โดยดีเพราะยังไงซะถ้าพวกเขากลับไปมือเปล่า ก็คงไม่พ้นถูกฆ่า และก็ไม่อยากให้ต้องเจ็บตัวกันมากไปกว่านี้ และก็ขอให้ไว้ชิวิตพวกเขาหรืออย่างน้อยก็แค่ลูกน้องของเขาก็ยังดี แต่ก็อิดออดไม่ยอมบอกชื่อคนที่ส่งพวกเขามา จนถูกราชาริโนจี้ตรงๆ ว่าคนที่ส่งพวกเขามาคือเกรฮัมเครใช่ไหม ลามาด้าจึงยอมรับแต่โดยดี 
เมื่อได้ฟังเรื่องเกี่ยวกับลักษณะพิเศษของตราแห่งการลงทัณฑ์จากริโน ที่ว่าตราจะดูดกลืนชีวิตของผู้ถือ และจะย้ายตัวเองไปยังคนที่อยู่ใกล้ๆ หลังจากผู้ถือครองตาย เขาจึงรู้ว่าพวกตนถูกเครหลอกใช้ให้เป็นเพียงภาชนะในการนำตรากลับไปเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นลามาด้าจึงขอร้องริโนให้รับพวกเขาไว้ทำงาน โดยราชาริโนมอบให้ลาสโลเป้นคนดูแลพวกเขา เขาจึงสั่งให้อาคากิกับมิซึกิไปอยู่ใต้บังคับบัญชาของลาสโลแทนเขา


อนึ่งในกรอบต่อไปนี้เป็นการวิเคราะห์และเนื้อหาจากนิยายบางส่วนเนื่องจากไม่มีการระบุเรื่องราวไว้ชัดเจน

ไม่มีการระบุว่าหลังจากนั้นลามาด้าสืบหาว่าตราแห่งการทัณฑ์อยู่กับลาสโลได้อย่างไร 
แต่จากเนื้อหาของเรื่องที่สโนว์มีการไปเข้าพบพวกทรอยและเกรฮัมเครที่คูลูค และช่วงจังหวะเวลา 
มีความเป็นไปได้ว่าหลังจากที่ราสริลตกอยู่ในอำนาจของคูลูคแล้ว สโนว์ได้เข้าพบผู้รับผิดชอบระดับสูงของคูลูค และได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่
หัวหน้ากองเกล็นเสียชีวิต และเรื่องของลาสโลออกไป ทำให้เครสามารถคาดเดาได้ว่าตราคงจะย้ายไปอยู่ที่ลาสโลแล้ว 
หรือไม่เช่นนั้นพวกลามาด้าก็อาจจะสืบรู้จากชาวเมืองราสริล 
และจากนั้น ก็ตามสืบจนมราบข่าวว่าราชาโอเบลรับเอาคนที่มาจากราสริลมาทำงาน จึงตามมาถึงโอเบลได้ในที่สุด
ทั้งนี้เนื้อหาจากภาคนิยาย ระบุลำดับเรื่องไว้ต่างออกไปเล็กน้อย คือลามาด้าได้รายงานเรื่องตรากับเกรฮัมเครทันทีที่หลังจากที่กลับถึงคูลูคโดยปลอดภัย
และเครเป็นผู้สั่งให้เข้าโจมตีราสริล เพื่อแย่งชิงตรา

อนึ่งนี่เป็นการวิเคราะห์ในแนวทางหนึ่งเท่านั้น
เมื่ออยู่กับพวกลาสโลนานเข้า ลามาด้าก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อลาสโล เพราะลาสโลยอมรับพวกเขาให้อยู่บนเรือทั้งที่พวกเขาคิดจะสังหารลาสโลแท้ๆ และเมื่อมองย้อนกลับไป ทั้งการตายของเกล็น ทั้งการที่ลาสโลต้องกลายเป็นผู้สืบทอดตรา และต้องถูกเนรเทศออกจากราสริลนั้น ล้วนมีสาเหตุมาจากการที่ เขาว่าจ้างโจรสลัดไปโจมตีราสริลในครั้งนั้น ซึ่งลาสโลก็ควรจะรู้อยู่เลาๆ อยู่แล้วว่าตัวการก็คือลามาด้า แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา ลามาด้าจึงตัดสินใจว่า เขาจะต้องหาทางชดใช้ความผิดที่ทำไว้ให้ได้ และจะสารภาพเรื่องทั้งหมดกับลาสโลอีกครั้งเมื่อถึงเวลา โดยเขาส่งจดมหายถึงลาสโลอยู่ว่าขอให้ไว้ใจเขา และขอให้ลาสโลช่วยดูแลอาคากิกับมิซึกิด้วย
ลามาด้าอาสาเป็นผู้ช่วยไปเจรจากับเจ้าเมืองมิดเดิ้ลพอร์ทที่เขาเคยมาติดต่อ ไปเจรจากับแมคซิม มือสังหารอีกคนหนึ่งที่เกรฮัมเครส่งมาลอบสังหารลาสโล ให้หันมาเข้ากองทัพ และอีกหลายๆ อย่าง และเขาก็รับหน้าที่ แอบลอบเข้าไปในป้อมเอลอีล เพื่อสืบหาข้อมูล จนได้แบบแปลนของป้อมเอลอีลมา แต่ก็ถูกเกรฮัมเครพบตัวเข้าเสียก่อน เขาถูกเครทำร้ายแต่ก็สามารถส่งนกของเขานำแบบแปลนกลับมามอบให้พวกลาสโลได้สำเร็จ....


เขาเป็นบุคคลที่มีบทบาททำให้คนเล่นเซอร์ไพรส์กันมากที่สุกคนหนึ่งในภาคนี้ทีเดียว เพราะในขณะที่ใครต่อใครคิดว่าเขาคงไม่รอดแน่ๆ แล้ว ก็ไม่รู้ว่าเขารอดมาได้อย่างไรและไปหลบอยู่ที่ไหน แต่เมื่อเอเลนัวร์เผชิญหน้ากับเครและจะถูกเครซัดอาวุธลับเข้าใส่ ลามาด้าก็พุ่งตัวออกมาช่วยป้องกันเอเลนัวร์ จนตัวเองล้มลงไปเอง...
และเมื่อใครต่อใครคิดว่างานนี้เขาคงจะไม่รอดแน่ๆ แล้วอีก เขาก็ยังรอดมาได้อีกต่างหาก ทำให้ผู้เล่นหลายคนประทับใจในความอึดของเขา และร่วมใจกันตั้งฉายาให้เขาอีกอย่างว่าแมลงส.....


หลังจบสงครามก่อตั้งสหพัธรัฐหมู่เกาะ เมื่อรักษาตัวจนหายดีแล้ว ลามาด้าก็เริ่มทำการค้าขายและใช้ชีวิตอยู่ที่โอเบลนั่นเอง
ซึ่งในภาค Rhapsodia เขาไม่ได้ออกมามีบทบาทอะไร แต่ก็จะมีชื่อเขาปรากฏอยู่ในชื่อผู้ว่าจ้าง Quest
Personal tools