[spoil]กระทู้เกี่ยวกับChronicle+ตัวละครของภาคเทียร์ไครซ์

-พูดคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับ Suikoden- ทั้งเนื้อหาในเกม โครงเรื่อง ประวัติศาสตร์ชาติซุยโคเด็น หรือ ตัวละครที่ชื่นชอบ

[spoil]กระทู้เกี่ยวกับChronicle+ตัวละครของภาคเทียร์ไครซ์

โพสต์โดย Medeus » อังคาร มิ.ย. 02, 2009 10:35 pm

*กระทู้นี้ เป็นกระทู้ Spoil ทั้งกระทู้นะครับ

v
v
v

โอ้วว หลังจากที่รวบรวมข้อมูลเท่าที่หาได้ รวมกับเอกสารที่เรดเมจ เคยเอามาให้ดูครั้งก่อน ผมถึงสามารถเรียบเรียงข้อมูลของ Chronicles ได้แล้วน่อ ถ้ายังไง ก็ฝากคนที่เข้ามาดูช่วยตรวจสอบให้อีกทีนึงด้วยแล้วกันนะครับ หากทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็นำไปขึ้น wiki ด้วย (ผมกลัวว่า ยังมีจุดที่ยังเข้าใจผิดอยู่ เลยเอามาให้ทุก ๆ คนช่วยตรวจทานก่อนน่ะ)

--------------------------------------------------------------------

Chronicles นั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1. True Chronicle หรือ หนังสือที่แท้จริงเพียงหนึ่ง เป็นหนังสือที่บันทึกเรื่องทั้งหมดรวมทั้งอนาคตของโลก ทั้งการทำนาย ภัยพิบัติธรรมชาติ การรวมโลก การมาเยือนของ The One King และสิ่งอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ (ทำให้ไม่สามารถทำนายว่าพวกสมาคมจะพ่ายแพ้กับทัพอื่นได้) ทำให้พวกสมาคมหนทางหนึ่งสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ เช่น รู้ว่าจะเกิดดินถล่มตอนไปบุกยึดปราสาทฟารามอน และจะมีฟ้าผ่าลงมากลางเมืองไซนัส และนำไปใช้หลอกลวงผู้คนเพื่อไม่ให้ขัดขวางในการรวบรวมหนังสือ และจะบุกไปยึดดินแดนที่มาจากโลกอื่น

โดยในตอนแรกนั้น True Chronicle นั้น ถูกเก็บรักษาไว้โดยหัวหน้าเผ่าสไครฟ์คนก่อน ก่อนที่ต่อมา จะยกให้แก่ เบลเฟรด ที่อ้างว่าจะนำ True Chronicle ไปใช้เพื่อช่วยเหลือโลก และจากเหตุการณ์นี้เอง เมื่อเผ่าสไครฟ์ได้เห็นสิ่งที่เบลเฟรดทำ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งลัทธิ One True Way นำสิ่งที่เขียนอยู่ใน True Chronicles ไปหลอกลวงผู้คน จนเป็นต้นเหตุแห่งสงครามมากมาย เผ่าสไครฟ์จึงได้หนีหายไปยัง Woodland Village ใน Noslaw Woods และตัดขาดจากโลกภายนอกไป

หลังจากที่เบลเฟรด รวมโลกได้ครบ 12 ครั้ง และเรียก The One King ออกมาได้สำเร็จ True Chronicle ก็ตกไปอยู่ในมือของ The One King แต่ทว่าจากการรวมพลังจาก False Chronicles ทั้งหมด พวก Sieg ก็สามารถเอาชนะ The One King ได้สำเร็จ จากนั้น Sieg ก็ได้มอบ True Chronicle นี้ ให้แก่ Zenoa โดยขอให้เธอเก็บเอาไว้ และอย่าให้ใครได้มันไว้ในครอบครองอีก...

2. Flase Chronicles หรือ หนังสือปลอม เป็นความทรงจำในโลกตอนที่ล่มสลาย โลกที่พ่ายแพ้ต่อThe One King และมารวมตัวกันกับโลกที่ตัวเอกอยู่ โดยในภาค เทียร์ไครซ์นั้น มี Flase Chronicles ปรากฎด้วยกันถึง 12 เล่ม

2.1)輝ける遺志の書/Shining Legacy - เจตจำนงที่เปล่งประกาย
หนังสือปลอมที่มาจากโลกที่ป่า Flesaria เคยอยู่ เป็นหนังสือที่มีความทรงจำของการต่อสู้ของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เราได้เห็นใน Movie ตอนต้นเกม ซึ่งพวก Sieg ไปพบที่ซากโบราณสถานลึกลับที่โผล่ขึ้นมาทางเนินตะวันออกจากหมู่บ้าน Citro และได้รับพลัง Mark of the Star มาเป็นครั้งแรก พร้อมความทรงจำทั้งหมด ก่อนที่จะเกิดการรวมโลกขึ้น (ตามหลักแล้ว เมื่อเกิดการรวมโลกแล้ว ความทรงจำของผู้คนทั้งหมดจะถูกเขียนทับใหม่หมด มีเพียง 108 ดาราเท่านั้น ที่เมื่อจับ Flase Chronicles แล้ว ความทรงจำก่อนการรวมโลกจะยังอยู่) และหนังสือเล่มนี้ Sieg ก็เป็นคนที่เก็บไว้ตลอด

2.2) 気高き鋼鉄の書/Noble Steel - เหล็กกล้าชั้นสูง
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกที่เผ่า Auster เคยอยู่ หลังจากการรวมโลก Ordovic ผู้ซึ่งได้ตายไปตั้งแต่การสู้กับ The One King ในโลกเดิม ก็ได้ใช้หนังสือเล่มนี้ ในการติดต่อสื่อสารกับพวกเผ่า Austerที่เหลืออยู่ เพื่อบอกสิ่งที่เผ่า Auster ควรจะทำ ยามที่เผ่า Auster มาขอคำแนะนำหน้าแท่นบูชา แต่อยู่มาวันหนึ่ง หนังสือเล่มนี้ ก็ได้หายสาบสูญไปจากหมู่บ้าน Lugenik อันเป็นหมู่บ้านของเผ่า Auster ทำให้เผ่าAusterไม่ได้ยินเสียงของ Ordovic อีก และทำให้เข้าร่วมกับลัทธิ One True Way ได้โดยง่าย หลังจากนั้น หนังสือนี้ ก็ถูกไปพบเข้าที่ Grayridge Mine ที่ Macoute แอบนำไปซ่อนเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร? พวก Sieg ที่เข้าไปสืบเรื่องการแอบเก็บสมบัติเอาไว้ของ Macoute ก็ได้พบกับหนังสือ และได้เก็บหนังสือเอาไว้ แต่ทว่า เมื่อครั้งที่พวก Sieg ได้ปะทะกับกลุ่มของ Diadora ที่ปราสาทPharamond หนังสือเล่มนี้ ก็ถูกแย่งชิงเอาไป และถูกนำไปใส่ไว้ในตัว Fergus ทำให้เขาเป็นสัตว์ประหลาด แต่เมื่อเอาชนะได้ Fergus ก็สูญสลายจากพลังของหนังสือ จากนั้นเมื่อตอนที่พวก Sieg จะไปชวนเผ่า ริซิคฟอร์ค Zenoa ก็ได้แนะนำให้เอา Noble Steel ไป โดยให้ไปสัมผัสให้ถูกคน? เมื่อไปถึงแท่นบูชา Sieg ก็ได้ลองเอา Noble Steel ไปสัมผัสกับหน้าของบรรพบุรุษของเผ่าAuster และแล้ว Ordovic ก็ได้ปรากฎตัวขึ้น และช่วยเกลี้ยกล่อมให้เผ่า Auster เข้าช่วยเหลือพวก Sieg ได้สำเร็จ

2.3) 苛烈なる象徴の書/Fierce Regalia – หมายตราแห่งความเคร่งครัด
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกที่อาณาจักร Ritterchild เคยอยู่ ในช่วงที่เกิดสงครามเมื่อ 10 ปีก่อน อาณาจักร Janam ได้ทำการสู้รบกับ Ritterchild และในช่วงความวุ่นวายนั่นเอง ที่ Janam ได้แอบขโมยเอาหนังสือเล่มนี้ออกมา แม้ว่าตอนหลัง ทั้งสองอาณาจักรจะสานสัมพันธไมตรีกัน แต่ Janam ก็ไม่ได้คืนหนังสือให้แต่อย่างใด (คล้าย ๆ เหตุการณ์ชิง Dawn Rune ไปจากปราสาทฟาเลน่า ของพวกขุนนางบาโรว) จากนั้นหนังสือเล่มนี้ ก็ถูกนำไปวิจัย โดยสถาบันวิจัยเวทย์มนต์แห่งอาณาจักร Janam อย่างลับ ๆ เพื่อพัฒนาความสามารถด้านเวทย์มนต์ ทำให้อาณาจักร Janam ได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรที่มีวิทยาการด้านเวทย์มนต์สูงที่สุดในโลก โดยหัวหน้าฝ่ายวิจัยเวทย์มนต์ ก็คือ Rizwan เธอได้ใช้ลูกสาวของตัวเธอ Manaril ซึ่งมีความสามารถ Reader ในการอ่านหนังสือ เพื่อดึงความรู้ออกมาจากหนังสือ (ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปืน) จากนั้น ก็มอบให้แก่ Sieg ที่มาขอร่วมเป็นพันธมิตรกับ Janam เพื่อต่อต้านลัทธิ One True Way จากนั้น หนังสือเล่มนี้ ก็ถูกช่วงชิงไป ตอนที่กลุ่มของ Diadora มาปะทะกับพวก Sieg ที่ปราสาท Pharamond และหนังสือ ก็ถูกนำไปให้ Sophia ทำให้พลังเวทของเธอเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ยากแก่การรับมือ แต่แล้ว Manaril ก็ปรากฏตัว และร่ายคาถาจากตัวอักษรที่มีอยู่ใน หนังสือ ที่เธอจำได้อย่างขึ้นใจ ทำให้ Sophia ได้รับบาดเจ็บ และล่าถอยไป จนเมื่อสงครามทั้งหมดสิ้นสุดลง กลุ่มมือปืนจากอาณาจักร Ritterchild ก็ได้มานำหนังสือกลับไปยังมาตุภูมิ

2.4) 青き流転の書/Cerulean Flux – วัฏจักรสีน้ำเงิน
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกที่เผ่าPorposเคยอยู่ มีลักษณะคล้าย ๆ ลูกปัดที่ประดับอยู่บนหัวของหัวหน้าเผ่าPorpos หนังสือเล่มนี้ได้ถูกขโมยไปโดยลัทธิ One True Way และถูกไปไว้ยังที่ Coast Cave ถ้ำริมทะเล ใกล้ ๆ กับเมืองไนเนนิส หมู่บ้านของเผ่าPorpos โดยที่ทางลัทธิ ได้ปล่อย Renegades หรือ มอนสเตอร์ต่างมิติเฝ้าเอาไว้ (เรเนอเกด ต้องฆ่าโดยคนจากต่างมิติ) ทำให้เผ่าPorposไม่สามารถเข้าไปแย่งชิงหนังสือกลับมาได้ และเป็นสาเหตุให้เผ่าPorposไม่เชื่อใจมนุษย์ เผ่าPorposได้พยายามเข้ามาชิงหนังสือจากพวก Sieg เพราะคิดว่าจะสามารถนำไปเพื่อช่วยให้ได้รับหนังสือของเผ่าตัวเองกลับมา และแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของ Cougar ที่เป็นคนจากต่างมิติ ก็สามารถล้ม Renegades ได้สำเร็จ จนได้หนังสือของเผ่าPorposกลับมา และเผ่าPorpos ก็เข้าร่วมกับกองกำลังของพวก Sieg แต่ทว่าเมื่อครั้งที่กลุ่มของ Diadora บุกมายังปราสาท Pharamond หนังสือเล่มนี้ ก็ถูกชิงไป โดยนำไปใส่ไว้ในตัวของ Conon ทำให้เขากลายเป็นสัตว์ประหลาด และเมื่อล้มเขาลงได้ เขาก็สูญสลายไปจากพลังของหนังสือ จากนั้น หนังสือเล่มนี้ ก็ถูกกล่าวถึงอีก ตอนสงครามยึดป้อมปราการ Fort Arc ที่ Sophia ที่กลายเป็นปีศาจทรายไปแล้ว เฝ้าอยู่ โดยหนังสือเล่มนี้ จะมีพลังเวทย์แห่งน้ำ ที่เป็นจุดอ่อนของปีศาจทราย และคนที่สามารถใช้หนังสือเล่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ก็ไม่พ้น Neira หัวหน้าเผ่าPorposนั่นเอง

2.5) 猛き咆吼の書/Furiour Roar – เสียงคำรามกึกก้อง
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกที่เผ่าฟิวรี่ลอว์เคยอยู่ มีลักษณะคล้าย ๆ หัวกะโหลกเผ่าฟิวรี่ลอว์ ที่ถูกตั้งบูชาไว้ที่แท่นบูชา ในหมู่บ้าน Cragbark ของเผ่าฟิวรี่ลอว์ โดยการรวมโลกของเผ่าฟิวรี่ลอว์ครั้งนี้ ได้ทำให้ฐานทัพของ Sieg ขยายขึ้น ส่วนภูเขาจีโอนุย หายไปเกือบครึ่งเขา และหมู่เกาะที่กลุ่มโจรสลัด โดโรมอน อยู่ ก็หายไปจนหมด หลังจากที่พวก Sieg สามารถชักชวนเผ่าฟิวรี่ลอว์มาเป็นพันธมิตรได้แล้ว Sieg ก็ได้รับรู้ความจริงจากหนังสือว่า Cougar ได้ตายไปแล้ว จากการต่อสู้กับ The One King ในโลกเดิม ก่อนที่โลกฟิวรี่ลอว์ จะมารวม หลังจากนั้น หนังสือเล่มนี้ ก็เป็น 1 ใน 4 เล่มที่ถูกช่วงชิงไป ตอนที่ Diadora มาบุกปราสาท Pharamond โดยหนังสือเล่มนี้ ถูกนำไปใส่ไว้ในตัวของ Dirk ที่เป็นเพื่อนจากหมู่บ้านเดียวกันของพวก Sieg ซึ่ง Dirk ได้ใช้พลังจากหนังสือเปลี่ยนเขาให้เป็นสัตว์ประหลาด และเข้าต่อสู้ แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ เขาก็ไม่ได้สูญสลายไป เหมือนกรณีของ Conon และ Fergus จากนั้น Dirk ก็ได้เข้าต่อสู้กับ Sieg หลายครั้ง จนกระทั่งในครั้งสุดท้าย ที่ Dirk รู้สึกเอะใจกับแผนการของ Valfred จึงรุดหน้าไปยังฐานทัพของพวก Sieg และท้าประลองกับ Sieg ตัวต่อตัว และเขาก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ เขาได้รู้แล้วว่า Sieg ไม่ได้โดนหนังสือครอบงำอย่างที่เขาคิด และสิ่งที่เขาเอะใจ ก็ไม่ผิด Valfred ได้ใช้พลังจากหนังสือ เพื่อที่จะทำให้เกิดการรวมโลกที่ฐานทัพของ Sieg เพื่อทำลายให้เหมือนกับ Janam ที่โดนทะเลทรายทับไปแล้ว Dirk จึงได้ใช้พลังของหนังสือที่มีอยู่ตัวของตัวเอง รวมกับหนังสือที่แย่งมาจาก ริอู ในการเคลื่อนย้ายการรวมโลก ทำให้ฐานทัพของพวก Sieg รอดพ้นอันตรายได้ ก่อนที่จะ Dirk จะสูญสลายไป พร้อมกับความดีใจที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่เหล่าน้อง ๆ ได้เสียที...



2.6) 聖なる双刃の書/Twin Blades - ดาบคู่ศักดิ์สิทธิ์
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกที่อาณาจักรAstrasiaเคยอยู่ เป็นหนังสือปลอมเพียงเล่มเดียวที่มีอยู่ด้วยกัน สองชิ้นแต่แรกเริ่ม คือมีลักษณะเป็นดาบคู่ ได้แก่ Divine Edge และ Sacred Blades แต่ทว่า Sacred Blades ก็ได้ปิดผนึกตัวเองไป จนเหลือเพียงแค่ Divine Edge เพียงเล่มเดียว และกษัตริย์แอสทราเซีย ก็เป็นผู้ใช้ดาบเล่มนี้ จนกระทั่งอาณาจักร Astrasiaโดนลัทธิ One True Way เข้ายึด กษัตริย์แอสทราเซียก็สิ้นพระชนม์ลง ดาบถูกส่งมอบให้แก่ Fredegund ผู้เป็นลูกสาว แล้วเธอก็ทำงานให้แก่ลัทธิ One True Way แต่อยู่มาวันหนึ่ง Nova ได้เผลอไปจับดาบเล่มนี้เข้า เขาได้รับความสามารถ Mark of the Star และความทรงจำในอดีต ทำให้เขาอาละวาด คลุ้มคลั่ง เขาได้ลงดาบไปยังภรรยา และลูกสาวของเขา Sophia ซึ่งภรรยาของเขา นั้นตายลงภายในดาบเดียว ส่วน Sophia ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ Valfred ก็ได้เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ แต่ Sophia ก็สูญเสียความทรงจำ คิดว่า Valfred เป็นพ่อไป ส่วน Nova ก็ต้องสวมหน้ากาก ปิดบังใบหน้า เพื่อคอยช่วยเหลือ Sophia ดาบ Divine Edge นั้น มีอานุภาพที่แรงกล้ามาก จนทำให้พวก Sieg ไม่สามารถรับมือได้ไหว จนกระทั่ง Chrodechild ผู้เป็นพี่สาว ต้องออกมารับหน้า และได้ท้าดวลกับ Fredegund ที่ปราสาท Pharamond ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ของ Chrodechild ที่อยากกอบกู้อาณาจักร และช่วยเหลือน้องสาว จึงทำให้ตอนที่ดาบของทั้งสองคนปะทะกัน ดาบของ Chrodechild ก็ได้เปลี่ยนไปเป็น Sacred Blades ดาบที่เกิดมาเพื่อคู่กับ Divine Edge หลังจากสู้ตัดสิน จน Fredegund ยอมกลับมาเป็นพวก Chrodechild ก็ได้มอบดาบทั้งสองเล่มให้แก่ Sieg

2.7)秘枢たる線刻の書/Tatau Council – ลายเส้นแห่งประตูลี้ลับ
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกของเผ่าScribe โดยเป็นรอยสักที่อยู่บนตัวของผู้เฒ่าของหมู่บ้านเผ่าScribe โดยรอยสักนี้ มีความสามารถพิเศษ ที่สามารถปิดกั้นความสามารถ Mark of the Star ของเล่มอื่นได้ทั้งหมด โดยเมื่อครั้งที่ Sieg, Liu และ Chrodechild ถูกส่งไปยัง Ravine of the Infinity หรือหุบเหวแห่งห้วงมิติ โดย Diadora นั่น ก็ได้ ผู้เฒ่าแห่งเผ่า Scribe ช่วยเหลือเอาไว้ ทำให้ พวก Sieg สามารถกลับไปยังโลกปกติได้สำเร็จ อีกทั้ง เมื่อตอนที่ Diadora มาบุกหมู่บ้านเผ่าScribe เพื่อแย่งชิงหนังสือปลอม และเตรียมตัวจะใช้ความสามารถของเธอ ในการเปิดประตูมิติ ก็โดนผู้เฒ่าของหมู่บ้าน ใช้ความสามารถของรอยสักอันนี้ ทำให้เธอไม่สามารถเปิดประตูมิติได้ จนเธอต้องล่าถอยไป แต่ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของผู้เฒ่า จากนั้น ผู้เฒ่าก็ได้ส่งมอบหนังสือ อันเป็นรอยสักอันนี้ให้แก่ Liu ต่อ เพราะเชื่อว่า Liu จะใช้รอยสักนี้ เพื่อช่วยเหลือ Sieg ในการต่อสู้กับลัทธิ One True Way ได้แน่นอน จากนั้น Liu ก็ได้ใช้ความสามารถของรอยสัก ในการสกัดการเรียกปีศาจทรายของ Sophia ที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดได้ จน Nova สามารถเข้าไปเกลี้ยกล่อม Sophia ได้สำเร็จ แต่ทว่า เมื่อครั้งที่ Dirk ได้มาบุกฐานทัพของ Sieg ก็ได้จับตัว Liu เป็นตัวประกัน และบอกให้เขาส่งมอบรอยสักมายังร่างกายตัวเอง จากนั้น เมื่อ Valfred วางแผนชั่ว ที่จะให้เกิดการรวมโลกที่ฐานทัพของ Sieg ในตอนที่กำลังจะเกิดการรวมโลกอยู่นั่นเอง ที่ Dirk ใช้พลังของหนังสือปลอม ที่เป็นรอยสักอันนี้ ที่เป็นหนังสือที่ Valfred ยังไม่เคยได้นำไปใช้มาก่อน รวมกับพลังของหนังสือ Furiour Roar ที่อยู่ในร่างของตัวเอง ในการเคลื่อนย้ายการรวมโลกให้ไปยังจุดอื่น ก่อนที่ Dirk จะสลายไป ส่วนหนังสือปลอม ที่เป็นรอยสัก ก็ได้ย้อนกลับไปหาเจ้าของเก่า Liu ที่กำลังโศกเศร้าอยู่นั่นเอง

2.8) 古き約定の書/Ancient Covenant – พันธสัญญาโบราณ
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกที่อาณาจักร Janam เคยอยู่ เป็นหนังสือที่ถูกเก็บไว้ในส่วนลึกสุดของสถาบันวิจัยเวทย์มนต์ของเมืองEl-Qaral แห่งอาณาจักร Janam ในคัทซีนเปิดตัวของ Manaril นั้น หนังสือเล่มนี้เอง ที่เป็นหนังสือที่ Manaril กำลังถูกบังคับให้อ่านอยู่นั่นเอง หลังจากที่พวก Sieg ได้พา Manaril หนีออกมา หนังสือปลอมเล่มนี้ ก็ไม่ได้เปิดเผยออกมาให้เห็นอีก จนกระทั่งเมื่อตอน Valfred ใช้พลังจากหนังสือปลอมเล่มนึง (ผมคิดว่า น่าจะเป็นเล่ม Furious Roar เพราะเป็นเล่มใหม่ และน่าจะยังไม่เคยใช้) ในการเรียกทะเลทรายมา เพื่อที่จะทับลงบนอาณาจักร Janam ซึ่งเป็นอาณาจักรใหญ่อีกอาณาจักรที่เป็นเสี้ยนหนามของการเผยแพร่ลัทธิ เมื่อการรวมโลกกำลังจะเกิดขึ้นนั่นเอง Rizwan ผู้เป็นแม่ของ Manaril ก็ได้ใช้พลังของหนังสือ เพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายทะเลทรายออกไปให้พ้นเขตแดนของอาณาจักร แต่เธอก็มีพลังไม่เพียงพอ เธอทำได้แค่เพียงเลื่อนทะเลทราย ให้ขึ้นไปทางทิศเหนือได้นิดหน่อยเท่านั้น แม้ว่าเมือง Salsabil อันเป็นเมืองลูกของเมืองEl-Qaral จะรอดพ้นการรวมโลกมาได้ แต่El-Qaral เองก็ล่มสลายไป จากนั้น Rizwan ก็ได้ใช้พลังของหนังสือที่มีเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ทำให้วิญญาณของเธอดำรงคงอยู่ได้ และเดินทางมายัง Salsabil เพื่อส่งมอบหนังสือให้แก่ Shams ซึ่งเป็นพี่ชายคนละแม่ของ Manaril ก่อนที่จะฝากฝังให้เขาช่วยดูแล Manaril ด้วย ก่อนที่เธอจะสูญสลายไป จากนั้น Shams ก็ได้ส่งมอบหนังสือให้แก่พวก Sieg ไป

2.9). 果てなき道程の書/Endless Travels – การเดินทางไร้จุดจบ
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกของพวก Wanderer ซึ่งเป็นผู้เดินทางไปมาระหว่างมิติ มีลักษณะเป็นไม้เท้า ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของก็คือ Diadora ซึ่งไม้เท้าอันนี้ มีความสามารถพิเศษ ก็คือ การใช้ในการเปิดประตูมิติที่ไหนก็ได้ ตามที่ Diadora ผู้เป็นเจ้าของต้องการ แต่ที่นั่น ต้องเป็นที่ ๆ Diadora เคยได้ไปเห็นมาแล้ว ในตอนที่พวก Sieg กำลังเตรียมการที่จะป้องกันปราสาท Pharamond อยู่นั่นเอง Diadora ก็ได้ใช้พลังของไม้เท้า ในการเปิดประตูมิติมายังที่ปราสาท Pharomond ที่พวกลัทธิ One True Way เคยยึดเอาไว้ และเข้ามาแย่งชิงหนังสือปลอมเล่มอื่น ๆ ไปจากพวก Sieg นอกจากนี้ Diadora ยังสามารถใช้พลังในการเปิดประตูมิติ เพื่อเรียกเหล่า Monster ออกมาได้อีกด้วย (คล้าย ๆ Gate Rune) แต่หลังจากที่ Diadora เริ่มได้รับรู้ถึงแผนการของ Valfred จากที่เอาทะเลทรายไปทับอาณาจักรEl-Qaral นั่นเอง Diadora ก็เริ่มที่จะสงสัยในตัวของ Valfred และจากการที่พ่ายแพ้ต่อ Sieg และได้ฟังในสิ่งที่ Sieg พูดก็ทำให้ Diadora กลับตัวกลับใจมาช่วยเหลือฝั่ง Sieg และเปิดประตูมิติไปยัง Cynus และเข้าไปช่วยเหลือ Nova ออกมา จนกระทั่งเมื่อสงครามทั้งหมดสิ้นสุดลง Diadora ก็ได้ออกเดินทางไปเพื่อฟื้นฟูสถานที่ต่าง ๆ ก่อนที่จะหายสาบสูญไปพร้อม ๆ กับไม้เท้าของเธอ

2.10)茫漠たる琥珀の書/Boundless Amber - อำพันไร้ขอบเขต
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกทะเลทราย หลังจากที่ทะเลทรายได้พบ El-Qaral ไปแล้ว ทาง Valfred ก็ได้ส่งตัว Diadora ไปที่ ซาก El-Qaral เพื่อล่อความสนใจของพวก Sieg ที่ได้พา Luo-Tao มาเพื่อค้นหาหนังสือปลอมประจำทะเลทราย (Diadora เองก็มีหนังสือ Endless Travel อยู่กับตัว ทำให้ Luo-Tao ที่มีความสามารถในการสัมผัสถึงหนังสือได้ พาพวก Sieg ไปหา Diadora) ซึ่งในระหว่างที่พวก Sieg กำลังต่อสู้กับ Diadora อยู่นั่นเอง Valfred ก็สามารถไปเอาหนังสือแห่งทะเลทรายมาได้สำเร็จ และใช้มันในการเรียกโลกดินแดนต่อไป คือ Rarohenga มา จากนั้นก็นำไปใส่ไว้ในตัวของ Sophia (แต่เห็นบอกว่าเป็นความต้องการของ Sophia เอง) จนทำให้ Sophia กลายเป็นสัตว์ประหลาด และเฝ้าอยู่ที่ป้อมปราการ Fort Arc แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพละกำลังที่มหาศาลของเผ่า Auster, เวทมนตร์แห่งน้ำของ Neira, รอยสักของ Liu ก็ทำให้ Nova สามารถเข้าไปเกลี้ยกล่อม Sophia ได้สำเร็จ โดยที่เธอไม่ได้สูญสลายไปเหมือน ๆ คนอื่น ก่อนที่เธอจะมอบหนังสือให้แก่ Sieg ตอนที่เธอนอนพักอยู่ที่ฐานทัพ

2.11) 深き戦慄の書/Resonant Horror – ความพรั่นพรึงอันล้ำลึก
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลก Rarohenga ซึ่งแปลในภาษาของชนเผ่า Wanderer มีความหมายว่า “นรก” ตอนที่พวก Sieg ออกเดินทางไปยัง Rarohenga เพื่อค้นหาหนังสือ ก็ถูก Valfred ชิงตัดหน้าไปเสียแล้ว แม้ว่าพวก Sieg จะสามารถเอาชนะได้ แต่ Valfred ก็ได้นำหนังสือกลับไป เพื่อเตรียมตัวเรียกโลกที่ 12 โลกสุดท้าย เพื่อทำพิธีกรรมอัญเชิญ The One King ออกมา เพื่อให้เกิดโลกของ The One King ขึ้น เป็นโลกความสุข 1 วัน ที่ชีวิตจะดำเนินอยู่แค่วันที่คน ๆ นั้นมีความสุขมากที่สุด และวนไปเรื่อย ๆ เมื่อพวก Sieg ได้เดินทางไปถึงยัง Cynus และสามารถล้ม Valfred ลงได้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ในระหว่างนั้นเอง ที่กำลังจะเกิดการรวมโลกขึ้นที่ Cynus โดยที่สถานที่แห่งใหม่กำลังจะเอามาทับในตอนนั้นเอง Valfred ได้ใช้พลังของหนังสือเล่มนี้ ในการเคลื่อนย้ายสถานที่แห่งใหม่ไปยังที่อื่น และทำให้ The One King ปรากฏตัวขึ้น และเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นโลกของ The One King แต่ทว่าภายหลัง ด้วยสำนึกแห่ง 108 ดารา ก็ได้ทำให้พวก Sieg ทั้งหมดกลับมารวมกันที่ฐานทัพ และหลุดพ้นออกจากโลกของ The One King ได้สำเร็จ และกลับมายังโลกเดิมได้ โดยที่มีเพียงแค่ Cynus เท่านั้น ที่มีพายุปกคลุมไปทั่วเมือง และทั้งเมืองก็กลายเป็นโลกของ The One King ไป

2.12) 静かなる終端の書/Peaceful End - จุดสิ้นสุดอันเงียบงัน
หนังสือปลอมที่มาพร้อมกับโลกของ Cynus ที่ล่มสลาย ซึ่งในตอนที่โลกของ Cynus ที่ล่มสลาย กำลังจะเข้ามารวมโลกนั้น Valfred ก็ได้ใช้พลังของหนังสือ ทำให้โลก Cynus ที่ล่มสลาย ถูกย้ายขึ้นไปทางตอนเหนือของเมือง Cynus ทำให้ Cynus รอดพ้นจากการรวมโลก หลังจากที่พวก Sieg สามารถกลับมาจากโลกของ The One King ได้ พวก Sieg ที่กำลังหาหนทางเพื่อที่จะเอาชนะ The One King ให้ได้ จึงได้ลองเสี่ยงที่จะมาหาหนังสือเล่มสุดท้ายของโลกที่ 12 ดู พวก Sieg จึงได้เดินทางไปยัง Cynus ที่ล่มสลาย และที่ส่วนลึกสุดนั่นเอง ก็ได้พบกับ มอนสเตอร์ตัวนึง ที่เหมือนกำลังปกป้องอะไรบางอย่างอยู่ แล้วเมื่อพวก Sieg สามารถเอาชนะได้ ก็ได้พบกับหนังสือเล่มสุดท้าย ซึ่งในความทรงจำของหนังสือนั้น ก็ได้กล่าวถึง วิธีการเอาชนะ The One King โดยการที่ต้องใช้หนังสือทั้ง 12 เล่ม และได้รับรู้ว่า มอนสเตอร์ที่ปกป้อง นั่น ก็เผื่อรับประกันว่าจะมีคนที่เหมาะสมที่จะมาได้รับหนังสือเล่มนี้นั่นเอง และแล้ว พวก Sieg ก็ได้สานต่อเจตนารมณ์ของเทนไคที่อยู่ในหนังสือ ด้วยการใช้พลังจากหนังสือทั้ง 12 เล่ม ในการเอาชนะ The One King ได้สำเร็จในที่สุด.

ป.ล. ต้องขอบคุณเรดเมจ ที่เอาเอกสารมาให้ดู ทำให้ผมมีข้อมูลมากพอนำมาเขียนครับ
ป.ล.2 คำแปลของชื่อหนังสือ นั่น อ้างอิงจากชื่อ ญี่ปุ่น ที่แปลโดย Nanotech
ป.ล.3 จริง ๆ ยังมีเรื่องของ Timeline ลำดับการรวมโลกอีก แต่เรดเมจบอกว่า มันเป็นแค่การคาดเดา ผมก็เลยไม่กล้าเอามาขึ้นด้วย
ป.ล.4 หลังจากนี้ ไม่แน่ว่า ถ้าผมมีบทความอะไรจะนำขึ้น wiki อีก ผมก็จะมาขอให้ทุกคนช่วยตรวจทานให้อีกนะครับ ^^ (อ้าว แกหาเรื่องให้คนอื่นทำนี่หว่า)
แก้ไขล่าสุดโดย Medeus เมื่อ พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 10:09 pm, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
ล้างหนี้สำเร็จแล้วโว้ยย!!! ต่อไป ก็เตรียมตัว ขึ้นขับหุ่น ระเบิดพลังเหล็กไหล
Medeus
Inspector
 
  Wrath Rune

LV. 34   EXP 709
Blacksmith
Grassland
โพสต์: 452
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 11, 2009 9:24 am
ที่อยู่: อันตัวข้า อยู่ท่ามกลาง น้ำ (SUI) ไฟ(FE) และเหล็ก(SRW)

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับ Chronicle ของภาคเทียร์ไครซ์ ครับ

โพสต์โดย FLOW » พุธ มิ.ย. 03, 2009 12:07 am

ป๋มว่าคำแปลโครนิเคิลเป็นภาษาไทยอ่านแล้วมันดูแปร่งๆอ่ะครับ มันอาจจะตรงกับภาษาญี่ปุ่นเป๊ะ แต่พออ่านควบคู่กับภาษาอังกฤษด้วยแล้วผมว่ามันขัดๆชอบกลอ่ะครับ

- ไม่น่าจะแทนคำว่า chronicles เป็น"หนังสือ"นะครับ น่าจะขยับคำศัพท์ไปคำ เช่น "บันทึก" น่าจะเหมาะกว่า อย่างดาบของโครเดคิล ไม้เท้าของเจ๊แว่น มันไม่ได้มีรูปร่างเป็นหนังสือเลย เรียกว่าหนังสือแล้วดูประหลาดๆ

- 苛烈なる象徴の書/Fierce Regalia – หมายตราแห่งความเคร่งครัด << ไม่เห็นด้วยกับแปลไทยอ่ะครับ Fierce มันแปลว่า เกรี้ยวกราด ป่าเถื่อน , Regalia เป็นเครื่องหมายบอกยศศักดิ์ ไหงมันถึงกลายเป็นหมายตราแห่งความเคร่งครัดไปได้หว่า :?:

- 秘枢たる線刻の書/Tatau Council – ลายเส้นแห่งประตูลี้ลับ << จากเนื้อเรื่องและรูปร่างของมันแล้ว น่าจะใช้คำว่ารอยสักแทนลายเส้นไปเลยนะครับ ใช้คำว่าลายเส้นอ่านแล้วแปลกตา

นอกนั้นผมว่าโอเคแล้วครับ imho
ภาพประจำตัวสมาชิก
FLOW
Ancient Star
 
  Champion's Rune

LV. 47   EXP 898
Godwin Commander
Stormfist
โพสต์: 701
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 09, 2009 4:56 pm

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับ Chronicle ของภาคเทียร์ไครซ์ ครับ

โพสต์โดย redmagicians » พุธ มิ.ย. 03, 2009 11:54 am

ภาคภาษาญี่ปุ่นคือหนังสือครับ ภาคนี้เค้าตั้งชื่อต่างๆตามธีมของหนังสือน่ะ ผู้อ่าน บรรณารักษ์ ห้องสมุด เป็นต้น
ส่วนภาค us นำไปใช้เป็นคำว่า Chronicle เองอ่ะครับ

ส่วนชื่อหนังสือพวกนั้นมาจากภาษาญี่ปุ่นหมดเลยครับ ภาษาอังกฤษแปลกันเองได้อยู่แล้ว เอาคำแปลญี่ปุ่นไปก็ได้มั้งครับ *-* เมดิเขียนหมายเหตุนิดนึงว่าคำแปลต่างๆมาจากภาษาญี่ปุ่นไว้เพิ่มด้วยก็ดีนะ ^^

ส่วนลำดับคาดเดาล้วนๆนะครับ หนังสือก็ไม่มีบอกมา เท่าที่อ่านผ่านๆตอนนี้ ดังนั้น ไม่ลงก็ดีแล้ว =w=
redmagicians
System Admin
 
  Sun Rune

LV. 99   EXP 999
真実の盗む者
Rätselhaft
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 09, 2009 3:54 pm

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับ Chronicle ของภาคเทียร์ไครซ์ ครับ

โพสต์โดย Shiryu » พุธ มิ.ย. 03, 2009 9:49 pm

โอวววว ที่บอกว่าจะไล่กเ็บลำดับที่อยู่ของหนังสือในที่สุดก็สำเร็จเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมแล้วสินะ \\-.-\\
แจ๋วเลยครับ :D พวกข้อมูลในหนังสือซุยไม่มีเว็บแปลให้แบบเกมดังเกมอื่นด้วยซิ
เล่มของโปปัสชื่ออังกฤษ Cerulean Flux ครับ ภาคนี้ใช้ภาษาอังกฤษสวยดีนะ ^^

ไม่มีคอมเมนท์เนื้อหาอะไร แก้คำผิดละกันครับ
Flase Chronicles >> False Chronicles
Diadora บุกมายังปราสาท Pharamond
สามารถปรับความสนใจกับเผ่าฟิวรี่ลอว์ >> ฟังดูแปลกๆ จะเรียกว่าปรับความเข้าใจคงไม่ใช่ "ชักชวนมาเป็นพันธมิตร" ไหมครับ?
น่าจะเป็นเล่ม Furious Roar เพราะเป็นเล่มใหม่
เตรียมการที่จะป้องกันปราสาท Pharamond อยู่นั่นเอง

ตอนเดียโดร่าส่งพวกซิกลงหลุมมิติไปก่อนมาถึงหมู่บ้านสไครบ์น่าจะเรียกว่าหุบเหวแห่งห้วงมิติ (Ravine of the Infinity) หรือเปล่าครับ? corridor มันคือที่ๆวาฮียืนนิ

อยากให้บรรยายด้วยว่าหลังได้แต่ละเล่มมาเราได้ความทรงจำเกี่ยวกับพ่ออะไรมาบ้างด้วยนะเนี่ย :onion010
เปล่าประโยชน์! เปล่าประโยชน์! เปล่าประโยชน์! เปล่าประโยชน์!
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Shiryu
Premier Star
 
  Crazed Rune

LV. 36   EXP 247
Duelist
Na-Nal
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 09, 2009 4:52 pm
ที่อยู่: มิติแห่งโล่และเป็ด

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับ Chronicle ของภาคเทียร์ไครซ์ ครับ

โพสต์โดย Medeus » พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 10:00 pm

โอ้วว ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจากทุก ๆ คนครับ ^^ ผมได้แก้จุดต่าง ๆ ตามที่ทุก ๆ คนบอกแล้วน่อ

คิดว่าจะเอาบทความนี้ ขึ้น wiki ล่ะนะ


Shiryu เขียน:อยากให้บรรยายด้วยว่าหลังได้แต่ละเล่มมาเราได้ความทรงจำเกี่ยวกับพ่ออะไรมาบ้างด้วยนะเนี่ย


จริง ๆ ผมก็อยากเขียนครับ แต่ผมดันจำไม่ได้แล้วว่า มันมีความทรงจำอะไรบ้าง? = ="

ที่ ๆ จำได้ ก็คือ เล่มแรก ที่เป็น movie เปิดตัวเกม กับเล่มสุดท้าย ที่เป็นการบอกวิธีเอาชนะ The One King

ส่วนเล่มอื่น ๆ ก็จำได้จาง ๆ อย่าง Cerulean Flux ก็เห็นแก่ Tenkai ออกทัพ สั่งการให้เผ่า โปปัส โจมตี, Endless Travel ก็เห็นภาพของเดียโดร่า(?) นั่งอยู่กับพื้น ทำท่าสิ้นหวัง พร้อมต้องเห็นฐานทัพของพวกเธอล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา, Twin Blades ก็เห็นภาพเทนไค ถือดาบ Divine Edge ชี้หน้าใครอยู่ก็ไม่รู้

มันไม่ใช่ Movie เลยไปหาดูที่ Sisuca ไม่ได้ด้วย ไว้เดี๋ยวถ้ามีโอกาสได้เล่นรอบ 2 ค่อย update ข้อมูลในส่วนนี้แล้วกันน่อ (หรือ ถ้าใครรู้ ก็เข้าไป update ให้ผมเลยก็ได้นะครับ)
ล้างหนี้สำเร็จแล้วโว้ยย!!! ต่อไป ก็เตรียมตัว ขึ้นขับหุ่น ระเบิดพลังเหล็กไหล
Medeus
Inspector
 
  Wrath Rune

LV. 34   EXP 709
Blacksmith
Grassland
โพสต์: 452
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 11, 2009 9:24 am
ที่อยู่: อันตัวข้า อยู่ท่ามกลาง น้ำ (SUI) ไฟ(FE) และเหล็ก(SRW)

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับChronicle+ตัวละครของภาคเทียร์ไครซ์

โพสต์โดย *~Scarletmoon~* » พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 10:31 pm

เข้ามาชื่นชมในความขยันค่ะ

ละเอียดมากๆๆๆ จนต้องใช้เวลาอ่านถึง3วัน ไม่งั้นมึนตัวหนังสือ 555+

เพิ่งรู้ว่าChroniclesภาคญี่ปุ่นมันคือหนังสือ (แต่ในเกมส์รูปแบบมันก็เป็นหนังสือแหละเนอะ) เล็ตคิดว่ามันเป็นบันทึกความทรงจำมาโดยตลอดเลย = ="

อ่านจบแล้วเหมือนได้ทบทวนเนื้อหาเกมส์ที่เล่นไปแล้วอีกรอบนึงเลย เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ
Genso Suikoden
รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
*~Scarletmoon~*
Premier Star
 
  Blue Gate Rune

LV. 32   EXP 1
Mage Warrior
Dunan Republic
โพสต์: 484
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 09, 2009 4:57 pm

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับChronicle+ตัวละครของภาคเทียร์ไครซ์

โพสต์โดย Mysh » พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 10:56 pm

ทั้งๆที่เรียกว่าหนังสือ แต่ก็แหวกแนวให้มากลายเป็นอาวุธ และสิ่งของด้วยสินะครับ

สุดท้ายซิกได้เก็บไว้กี่เล่มเหรอครับ เพราะเห็นมีเล่มที่ต้องไปมอบให้ช่างตีดาบในฐานด้วย

แล้วก็ พอจะสรุปได้ไหมครับว่า รูปแบบของพลังที่หนังสือแต่ละเล่มมอบให้ดารานั้น แต่ละเล่มมีรูปแบบหรือแนวของพลังของมันยังไงบ้าง เช่น เล่มนี้เน้นที่การโจมตี เล่มนี้เน้นที่เวท หรือว่า หนังสือได้มอบพลังให้แต่ความสามารถที่ได้ไป เป็นความสามารถส่วนบุคคล ตามความถนัดของแต่ละดารา เพราะอย่างLiu แรกๆนั้นจะได้แต่พวกบัฟ ไม่ก็เวทกันให้พรรคพวก แบบนี้น่ะครับ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mysh
Premier Star
 
  Fire Sealing Rune

LV. 30   EXP 296
Chef of Black Dragon Group
Black Dragon Island
โพสต์: 424
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 11, 2009 2:59 pm
ที่อยู่: Pilika Palace

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับChronicle+ตัวละครของภาคเทียร์ไครซ์

โพสต์โดย Medeus » พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 11:20 pm

โอ้วว ดีใจมากครับ ที่เล็ตคุงเห็นว่ามีประโยชน์ ^^

Mysh เขียน:ทั้งๆที่เรียกว่าหนังสือ แต่ก็แหวกแนวให้มากลายเป็นอาวุธ และสิ่งของด้วยสินะครับ

สุดท้ายซิกได้เก็บไว้กี่เล่มเหรอครับ เพราะเห็นมีเล่มที่ต้องไปมอบให้ช่างตีดาบในฐานด้วย

แล้วก็ พอจะสรุปได้ไหมครับว่า รูปแบบของพลังที่หนังสือแต่ละเล่มมอบให้ดารานั้น แต่ละเล่มมีรูปแบบหรือแนวของพลังของมันยังไงบ้าง เช่น เล่มนี้เน้นที่การโจมตี เล่มนี้เน้นที่เวท หรือว่า หนังสือได้มอบพลังให้แต่ความสามารถที่ได้ไป เป็นความสามารถส่วนบุคคล ตามความถนัดของแต่ละดารา เพราะอย่างLiu แรกๆนั้นจะได้แต่พวกบัฟ ไม่ก็เวทกันให้พรรคพวก แบบนี้น่ะครับ


เรื่องที่ว่า ซิก เก็บไว้กี่เล่มเนี่ย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะไม่ได้บอกไว้ตรง ๆ แต่มีเล่มที่มอบให้ช่างตีดาบด้วยเหรอ? เล่มไหนล่ะครับ จะได้เอาไปขึ้น wiki (ข้อมูล ผมส่วนใหญ่ เขียนเอาจากความทรงจำเกือบทั้งหมด ก็มีลืมบ้างเหมือนกันน่อ)

ส่วนเรื่อง รูปแบบพลัง นั้น มันไม่ตายตัวน่ะครับ มันมั่วซั่วไปหมด ไม่อาจระบุรูปแบบหรือแนวพลังได้เลย
อย่างเล่ม Cerulean Flux ที่เป็นเล่มของโปปัส เอง ในกลุ่มของโปปัส ก็ได้ความสามารถมาไม่เหมือนกัน Neira,Nimni, Nemne ได้เวทน้ำ แต่ Nomno กลับได้ท่าโจมตี ส่วน Numnu ได้สกิล บัฟ

ดังนั้น ก็น่าจะเป็นอย่างหลัง ล่ะครับ

เอาล่ะ พูดถึง Liu พอดี เราเอง ก็พึ่งเขียน ข้อมูลของ Liu เสร็จพอดี ช่วยดูและแก้ไขให้ด้วยนะครับ ^^

SPOIL ALERT!!!
SPOIL ALERT!!!
SPOIL ALERT!!!

Liu

รูปภาพ

เด็กหนุ่มนิรนาม ที่เมื่อ 3 ปีก่อน ได้เดินทางมาถึงยังหมู่บ้าน Citro แล้วคนในหมู่บ้าน ก็ช่วยกันรับเลี้ยงดูเอาไว้ แท้ที่จริงแล้ว ริอู นั้น เป็นชนเผ่า สไครฟ์ ที่ซึ่งชนเผ่านี้ มีกฎอยู่ว่าเมื่อ เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ หรือมีอายุได้ 13 ปี จะต้องเข้ารับการทำพิธีสลักรอยสักตามตัว แต่ริอู ไม่อยากเข้าพิธีสลักรอยสัก จึงได้หลบหนีออกมา โดยก่อนที่จะหลบหนี เขาก็ได้ชักชวน หญิงสาวเผ่าสไคร์ฟ ที่เป็นเพื่อนวัยเด็กของเขา ให้ออกหนีตามกันไปกับเขา แต่ทว่าด้วยเพราะ หญิงสาวคนนั้น มีหน้าที่ ๆ ต้องทำ จึงไม่สามารถมาด้วยได้ เธอจึงได้มอบของสิ่งหนึ่งเอาไว้ให้กับเขาแทน

หลังจากที่ ริอู ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้าน Citro แล้ว เขาก็เป็นเพื่อนกับ Sieg ที่เป็นเด็กที่ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้าน Rajim ได้เก็บมาเลี้ยง แม้ว่าทั้ง ริอู และ Sieg จะไม่ใช่คนในหมู่บ้าน Citro แต่ต้น แต่ทั้งสองคน ก็ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น และถือว่าเป็นสมาชิกครอบครัวของหมู่บ้าน จากนั้น เขาก็ได้เป็นเพื่อนกับ Marica Jale อีกทั้ง ยังมีลูกพี่ อย่าง Dirk คอยให้ความช่วยเหลือ ริอู ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มการ์ดป้องกันหมู่บ้าน Citro

และแล้ว ในภารกิจหนึ่ง ที่ให้ไปล่าโมสะโมสะ ที่เนินตะวันออก ก็เกิดเหตุการณ์การรวมโลกขึ้น ซึ่งพอหลังจบเหตุการณ์ พวก Sieg ทั้งหมด ก็ไม่สามารถจำเรื่องราวก่อนการวมโลก และในระหว่างปฏิบัติภารกิจเดิมนั้น Sieg ก็ได้ไปสัมผัสกับหนังสือลึกลับเล่มนึงเข้า และแล้วความทรงจำ ก่อนการรวมโลกก็ได้กลับคืนมา และ Sieg Marica และ Jale ก็ได้ความสามารถ Mark of the Star มา ซึ่ง ริอู เอง ก็ได้รับความทรงจำและความสามารถมาเช่นกัน แต่เขาก็ปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ โดยทำเป็นว่า ไม่เข้าใจเรื่องที่ Sieg กำลังพูดถึงความทรงจำก่อนการรวมโลก

เวลาต่อมา ริอู ก็ขอแยกออกจากกลุ่ม โดยอ้างว่าตัวเอง ไม่ได้มีความสามารถเหมือนอย่างพวก Sieg เขาได้กลับไปรอที่หมู่บ้าน จนกระทั่ง อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อลัทธิ One True Way ได้หมายมั่นที่จะมายึดหมู่บ้าน Citro เพื่อเผยแพร่คำสอน พวก Sieg ก็ได้เข้าต่อสู้เพื่อปกป้องหมู่บ้าน โดยเอา ฐาน Rätselhaft เป็นที่มั่น แต่พลังของฝ่ายลัทธิ One True Way นั้น ยากแก่การต้านทาน พวก Sieg ที่กำลังจะเพลี้ยงพล้ำ ก็ได้ ริอู มาช่วยเหลือ โดยเขาใช้ Mark of the Star ของเขา ทำให้ พวก Sieg รอดมาได้ ภายหลัง เขาถึงได้เฉลยว่าตัวเองเป็นเผ่าสไครฟ์ และมีความรู้เรื่องหนังสือตั้งแต่แรก แต่ทว่าเขาเองก็แอบหนีออกมาจากหมู่บ้านสไครฟ์ เขาเลยไม่อยากยุ่งเกียวกับเรื่องหนังสือ

หลังจากนั้น ริอู ก็ค่อยทำหน้าที่เป็นกุนซือ ช่วยวางแผนการรบต่าง ๆ ให้แก่กองทัพ Viele Wege จนกระทั่ง เมื่อทั้งเขา Sieg และ Chrodechild ถูกส่งไปยัง Ravine of the Infinity โดยฝีมือของ Diadora และสามารถหลุดพ้นออกมาได้ พวกเขาทั้งสามคน ก็ถูกพามายังหมู่บ้าน Woodland อันเป็นหมู่บ้านของเผ่าสไคร์ฟในที่สุด และได้รับความจริงเกี่ยวกับเรื่องหนังสือจากผู้เฒ่าหมู่บ้าน Lao-Kwan แต่ด้วยเพราะการใช้พลังมากเกินไปที่จะช่วยเหลือพวก Sieg ก็ทำให้ Lao-Kwan ต้องหมดพลังชีวิตไป แต่ก่อนที่เขาจะตายนั้น เขาก็ได้มอบ False Chronicle : Tatau Council ซึ่งเป็นรอยสักประจำตัวผู้เฒ่าหมู่บ้าน ให้แก่ ริอู และยกตำแหน่ง ผู้เฒ่าหมู่บ้าน ให้แก่ ริอู เพราะเห็นว่าริอู ที่เคยออกไปเห็นโลกภายนอกมาแล้วนั้น ย่อมต้องสามารถที่จะเลือกใช้รอยสักอันนี้ ได้ดีกว่ากลุ่มคนที่เอาแต่หลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ป่าลึก

แม้ว่าตอนแรก ริอู จะพูดประมาณว่า "น่าแปลกไหมล่ะ ที่คนที่หนีออกไปจากหมู่บ้าน เพราะต้องการหนีรอยสัก กลับมาได้กลายเป็นหัวหน้า และรับรอยสักเอาไว้" แต่เขาก็ยินดีที่จะรับรอยสักอันนี้ไว้ เพื่อใช้ต่อกรกับลัทธิ One True Way ร่วมด้วยกับ Sieg จากนั้น ถึงแม้จะมีเสียงคัดค้านถึงความไม่เหมาะสมของริอู ที่ได้มาเป็นผู้เฒ่าหมู่บ้าน แต่ทว่าเขาก็ยังคงแสดงจุดยืนของตัวเองอยู่เสมอว่า เขาทำทุกสิ่งทุกอย่าง ก็เพื่อปกป้องหมู่บ้าน และไม่นาน พวกคนในหมู่บ้าน ก็ยอมรับในตัว ริอู ในที่สุด

หลังจากที่สงครามทั้งหมดสิ้นสุดลง ริอู ก็ได้ทำงานควบสองตำแหน่ง ได้แก่ ผู้เฒ่าเผ่าสไครฟ์ และกุนซืออยู่ที่ฐานเช่นเดิม

ป.ล. พรุ่งนี้ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร จะมาเขียนข้อมูลของสาวคนที่เจ้า ริอู คิดจะริอาจพาหนีตามกัน ตั้งแต่เด็ก หุหุ ผู้หญิงคนนี้ มีอะไรที่น่าเขียน และผมว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกับริอูมากเลยนะ ^^ (คู่ normal ในซุย นี่มันหายากจริง!!!)
ล้างหนี้สำเร็จแล้วโว้ยย!!! ต่อไป ก็เตรียมตัว ขึ้นขับหุ่น ระเบิดพลังเหล็กไหล
Medeus
Inspector
 
  Wrath Rune

LV. 34   EXP 709
Blacksmith
Grassland
โพสต์: 452
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 11, 2009 9:24 am
ที่อยู่: อันตัวข้า อยู่ท่ามกลาง น้ำ (SUI) ไฟ(FE) และเหล็ก(SRW)

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับChronicle+ตัวละครของภาคเทียร์ไครซ์

โพสต์โดย Mysh » ศุกร์ มิ.ย. 05, 2009 2:00 am

Liu พอสะกดด้วยภาษาไทยแล้วมันดันชื่อว่า "ศรี" ซะงั้น เป็นความจงใจอันใดของโคนาเม้งรึเปล่าครับ??

หมอนี่บทเด่นทีเดียว จากที่ตอนเรียกผมนึกว่าเป็นคลาสโจร กลับกลายเป็นกุนซือ ดูกันที่หน้าตาไม่ได้เลยนะหมอนี่ ตอนแรกที่พวกซิกตกที่นั่งลำบาก จู่ๆก็มาออกความเห็น แล้วก็กลายเป็นกุนซือไปโดยปริยาย ถึงแม้ตอนแรกๆดูเหมือนคนขลาดกลัวก็เถอะ

พูดถึงหนังสือเล่มที่มอบให้ช่างตีดาบไป ผมก้ไม่ทราบเช่นกันครับว่าเล่มไหน หรือจะแค่เอาไปให้ดูก็ไม่ทราบ พอดีตอนที่เอาเซฟของหมอฮิมาเปิดเพื่อทำข้อมูล ผมหาคนขายอาวุธในฐานไม่เจอ เลยมาถามในบอกซ์ น่าจะรินซังนี่แหละมั้ง ที่บอกว่าต้องมอบหนังสือให้กับช่างตีดาบประจำฐานก่อน เขาถึงจะขายอาวุธให้เราน่ะครับ ผมเองก็จำชื่อช่างตีดาบประจำฐานไม่ได้แล้วสิ แต่เมดิซังน่าจะนึกออกนะครับ ดาราที่มาทำหน้าที่นี้

V
V
V

ไม่ใช่คร้าบ แค่ว่า ถ้าพิมพ์อักษร L i u ด้วยแป้นไทยแล้ว จะได้คำว่า ศรี น่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Mysh เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 06, 2009 10:12 am, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mysh
Premier Star
 
  Fire Sealing Rune

LV. 30   EXP 296
Chef of Black Dragon Group
Black Dragon Island
โพสต์: 424
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 11, 2009 2:59 pm
ที่อยู่: Pilika Palace

Re: [spoil]กระทู้เกี่ยวกับChronicle+ตัวละครของภาคเทียร์ไครซ์

โพสต์โดย Medeus » ศุกร์ มิ.ย. 05, 2009 9:04 pm

ตอนแรก Liu ผมเอง ก็ตกใจพอดูอยู่แล้วนะว่า หน้าแบบนี้ เป็นนักเวท (รูปเต็ม ท่าอย่างพริ้ว แถมถือมีดสั้นอีก) ยิ่งบทให้มาเป็นกุนซือ ยิ่งงงเข้าไปใหญ่เลย

Liu พอเข้า google ไทย แล้ว กลายเป็น ศรี งั้นเหรอ? มันไปเกี่ยวอะไรกันวะเนี่ย?!

นักตีดาบ ของภาคนี้ ชื่อ Gadburg ครับ

----

เอาล่ะ วันนี้ เป็นข้อมูลของ....

SPOIL ALERT!!!
SPOIL ALERT!!!
SPOIL ALERT!!!
v
v
v
v
v






Len-Lien

รูปภาพ

เด็กสาวเผ่าสไครฟ์ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของ Liu เมื่อตอนที่เธอและ Liu มีอายุได้ 13 ปี ที่เป็นวัยที่จะต้องเข้ารับการทำพิธีสลักรอยสักนั้น Liu ที่ไม่ต้องการที่สลักรอยสัก ได้ชวนเธอให้หนีออกไปจากหมู่บ้านด้วยกันกับเขา แต่ทว่า เรน-รีน นั้น ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้เฒ่าหมู่บ้านของเผ่าสไครฟ์ Lao-Kwan อยู่ ทำให้เธอคงอยู่ช่วยที่หมู่บ้าน แม้ว่าในใจของเธอ จะอยากไปกับ Liu มากแค่ไหนก็ตาม ดังนั้น เธอจึงได้มอบหินสีเขียวให้แก่ Liu และได้ขอให้ Liu ช่วยเก็บมันไว้กับตัวตลอด ก่อนที่จะปล่อยมือจาก Liu ให้หนีออกไปจากหมู่บ้านเพียงลำพัง...

สามปีต่อมา โชคชะตาของคนทั้งสอง ก็ได้นำพาให้พวกเขากลับมาพบกันอีกครั้ง เมื่อ ผู้เฒ่าหมู่บ้านของเผ่าสไครฟ์ Lao-Kwan ได้ใช้พลังของรอยสัก Tatau Council ช่วยเหลือ Liu พร้อมด้วย Sieg และ Chrodechild ที่ถูกพลังจากไม้เท้า Endless Travel ของ Diadora ส่งพวกเขาไปยัง Ravine of the Infinity ให้สามารถกลับมายังโลกเดิมได้ ในตอนนั้น เธอก็ได้รับการสลักรอยสัก และก็ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้เฒ่าหมู่บ้านอยู่ แต่เธอเองก็ดีใจมากที่ได้พบกับ Liu อีกครั้ง

จนเรื่องเหตุการณ์น่าเศร้าเกิดขึ้น จากการที่ใช้พลังมากเกินไปของ Lao-Kwan ก็ได้ทำให้เขาต้องเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาของ เรน-รีน จากนั้น รอยสัก Tatau Council ก็ได้ถูกส่งมอบต่อให้แก่ Liu พร้อมกับตำแหน่งผู้เฒ่าหมู่บ้าน Liu นั้น ยังคงอยากที่จะออกไปจากหมู่บ้าน เพื่อช่วยเหลือพวก Sieg ในการต่อสู้กับลัทธิ One True Way แม้ทว่าจะได้รับการต่อต้านจากคนในหมู่บ้านสไคร์ฟด้วยกันเอง แต่ Luo-Tao นักรบชาวสไคร์ฟอีกคนและ เรน-รีน ก็ออกจากหมู่บ้านมาเพื่อช่วยเหลือ Liu ด้วย โดย เรน-รีน ให้เหตุผลว่า "เพราะเธอทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้เฒ่าหมู่บ้าน และตอนนั้น Liu ก็เป็นผู้เฒ่าหมู่บ้านแล้วยังไงล่ะ"

จากนั้น เรน-รีน ก็ได้มาช่วยอยู่ที่ฐานทัพ Rätselhaft อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็ได้ไปหยิบเอาเสื้อผ้าของ Liu มาซัก และเธอก็ได้พบกับหินสีเขียว ที่เป็นหินก้อนเดียวกับที่เคยให้แก่ Liu ในครั้งที่เธอได้มอบให้แก่ Liu ตอนที่เขาจะออกจากหมู่บ้านไปนั่นเอง ในขณะที่ Liu กำลังไปขอร้องให้ Sieg ช่วยหาหินสีเขียวที่ว่านั่น ผ่านทาง Moana เจ้าแม่เควส นั่นเอง เรน-รีน ก็ได้นำหินสีเขียวนั้นมาคืนให้แก่ Liu ซึ่งเธอก็ดีใจจนน้ำตาซึม ที่ Liu ยังคงเก็บหินสีเขียวเป็นของสำคัญเอาไว้อยู่เสมอ ทำให้ Liu เองก็รู้สึกเขิน ๆ จนโดน Sieg และ Moana ล้อเอาจนได้

ในคืนก่อนศึกสุดท้ายนั่นเอง ในขณะที่ Sisuca กำลังร้องเพลงเพื่อกล่อมฐานทัพอยู่ Marica ก็ได้ไปชวน เรน-รีน มาร่วมฟังด้วย โดยให้เธอได้ยืนอยู่ข้าง ๆ กับ Liu

เมื่อสงครามทั้งหมดสิ้นสุดลง ไม่ว่า Liu จะไปไหน เรน-รีน ก็จะร่วมเดินทางไปด้วยอยู่เสมอ

ป.ล. ผมจำประโยคที่เรน-รีน พูดไว้ ตอนที่ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปด้วยกันกับ Liu ได้ไม่ค่อยแม่น แต่ถ้าจำไม่ผิด ก็คงราว ๆ นี้หละน่อ ถ้ามีใครจำได้ ก็ทวงได้นะครับ ^^
ป.ล.2 จริง ๆ ตอนเล่น ญี่ปุ่น รอบแรก เนี่ย ผมแทบจำ Len-Lien ไม่ได้เลยนะ แต่พอได้มาอ่านของ Eng แล้วรู้เรื่องแบบนี้ ทำให้รู้สึกชอบคู่นี้ขึ้นมาเลยล่ะน่อ เป็นคู่ที่น่ารักมากเลยจริง ๆ นะครับ
ล้างหนี้สำเร็จแล้วโว้ยย!!! ต่อไป ก็เตรียมตัว ขึ้นขับหุ่น ระเบิดพลังเหล็กไหล
Medeus
Inspector
 
  Wrath Rune

LV. 34   EXP 709
Blacksmith
Grassland
โพสต์: 452
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 11, 2009 9:24 am
ที่อยู่: อันตัวข้า อยู่ท่ามกลาง น้ำ (SUI) ไฟ(FE) และเหล็ก(SRW)


ย้อนกลับไปยัง =o= SuikoFriend Suikoden General Talk =o=

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน