Compilation of FFVII
 

- บทสัมภาษณ์ Yoshinori Kitase ลงนิตยสาร EGM (Sep 1, 2005) -

EGM      : ความคิดเรื่องการทำภาคเสริมของ FFVII เริ่มมายังไง?

Kitase    : ไอเดียนี้เริ่มจาก AC ซึ่งเป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากเนื้อเรื่องหลักภาค 7 แต่หนังเรื่องเดียวไม่สามารถแสดงโลกของภาค 7 ออกมาได้ทั้งหมด ในตอนที่เราเริ่มโครงการทำ AC ทีมงานก็ได้คิดสร้าง BC และ DC ตามลำดับเพื่อเพิ่มเติมเรื่องราวต่างๆเข้าไป

EGM      : ภาคเสริมเป็นงานหนักซึ่งต้องทำไป 4 โปรเจ็คต์พร้อมๆกัน เราเห็นว่าภาพ CG Movie ใน DC ใช้ตัวเดียวกับใน AC แสดงว่าคุณได้มีการแลกเปลี่ยนตัวงานข้ามโปรเจ็คต์ด้วยใช่ไหม?

Kitase    : ในทีแรกทีมงานก็เห็นว่ามีหลายๆตัวงานที่เราแลกเปลี่ยนข้ามโปรเจ็คต์กันได้ แต่เอาเข้าจริงๆมันลำบากกว่าที่คิด ยกตัวอย่างเช่นดีไซน์ของวินเซนต์ใน AC ผมของวินเซนต์จะยาวสลวย แต่ใน DC จะแข็งๆชี้โด่เด่มากกว่า โนมุระเป็นคนออกแบบตัวละคร เขาอยากให้ดีไซน์ตัวละครเปลี่ยนไปทุกๆภาค

EGM      : ความคิดที่จะสร้างเกมแอ็คชั่นของ FFVII หรือความคิดที่จะให้วินเซนต์เป็นตัวเอกมาก่อนกัน?

Kitase    : เราคิดที่จะทำเกม action ขึ้นมาสักเกมหนึ่ง ต่อมาเราก็คิดถึงภาคเสริมของ FFVII และในภาค 7 วินเซนต์ใช้ปืนเป็นอาวุธคู่กาย เราก็เลยสร้างเป็นเรื่องราวของวินเซนต์ขึ้นมา

EGM      : 2-3 ปีก่อนมีข่าวลือเรื่องเกม action ของ FFVII แต่ทุกคนต่างก็คิดว่าคลาวด์จะเป็นตัวเอก ไม่น่าเป็นวินเซนต์ วินเซนต์เป็นตัวละครลับและปมหลังของเขาก็ถูกซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่องของภาค 7 ทำไมไม่ใช้คลาวด์, ยุฟฟี่หรือคนอื่นๆที่น่าจะใช้ในเกม action ได้?

Kitase     : ตอนนั้นเรากำลังทำ AC และใน AC ก็ได้เจาะลึกเรื่องราวของทีฟาและคลาวด์ไปแล้ว ซึ่งเรื่องราวของคลาวด์ก็สมบูรณ์ลงใน AC อีกอย่างคือคลาวด์ไม่ได้ใช้ปืน และเราตั้งใจจะทำเกมแอ็คชั่นเดินยิง จึงเลือกวินเซนต์เป็นตัวเอก ถึงในภาค 7 วินเซนต์จะเป็นตัวละครลับแต่เขาเกี่ยวข้องกับชินระ, โฮโจ และเซฟิรอธอย่างมาก เรายังใส่เรื่องราวของเขาที่เกี่ยวข้องกับคนพวกนี้ให้เป็นดราม่าได้

EGM      : ภาคเสริมของ FFVII ทั้ง 4 ภาค ไม่มีภาคไหนที่เป็น RPG เลย อันนี้คุณตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้หรือเปล่า?

Kitase    : จะสร้าง RPG สักเกมหนึ่งต้องใช้เวลา, คน และการเตรียมการมาก เราต้องการสร้างเกมจากโลกของภาค 7 และไม่ได้คิดจะสร้าง RPG

EGM      : ในซีรี่ส์ FF เกมที่เป็นเนื้อเรื่องต่อเนื่องเกมแรกก็คือ FFX-2 เหตุผลหลักที่ Square ทำเกมนี้คือมันประหยัด เพราะสามารถใช้ภาพเดิม, ตัวละครเดิม, โลกเดิมได้ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แล้วทำไมครั้งนี้คุณเลือกทำภาค 7  ทั้งที่ต้องสร้างทุกอย่างขึ้นมาใหม่หมด?

Kitase    : FFVII ออกในตอนที่ PS เพิ่งเข้าตลาดและเพิ่งใช้รูปแบบ 3D ได้ ภาคนี้เป็นจุดเปลี่ยนแปลงใหญ่ของซีรี่ยส์ซึ่งมีความสำคัญต่อเรามาก จนถึงภาค 12 เราก็ยังใช้รูปแบบคล้ายภาค 7 อยู่ อีกเหตุผลหนึ่งคือภาค 7 มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และนักเล่นเกมต่างให้ความสนใจมาก เราได้เตรียมการอย่างดีเพื่อไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ตอนทำ X-2 เราเรียนรู้วิธีการนำของเก่ามาใช้ใหม่ แต่สำหรับภาค 7 เราต้องทำมากกว่านั้นเพื่อให้แฟนๆพอใจให้ได้ ทีมงานภาค 7 เดิมอย่างคุณนาโอระผู้กำกับศิลป์, อุเอมัตสึผู้ประพันธ์เพลง, โนจิม่าคนเขียนบท และโนมุระคนออกแบบตัวละครจะต้องกลับมารวมตัวกันเพื่อทำภาคเสริมของ FFVII หลังจากเคยแยกย้ายกันไปทำคนละเกม และเราต้องการให้ภาคเสริมนี้ดีพอที่จะไม่ทำให้ทีมงาน, บริษัท และแฟนๆที่คาดหวังต้องอับอาย

EGM      : แฟนๆชาวอเมริกันด่าภาค X-2 กันมากว่าตัวเกมปัญญาอ่อน ทีมงานจะทำภาคเสริมของ 7 ออกมาในแบบปัญญาอ่อนอีกไหม?

Kitase    : ในครั้งนี้ทีมงานจะไม่ใช้ concept งี่เง่าเด็ดขาด จริงๆแค่เอาเคทซิทเป็นตัวเอกก็คงตลกแล้ว แต่เราไม่ทำ ก่อนภาค X-2 คำว่า Final Fantasy ทำให้นักเล่นเกมคิดถึงเกมที่มีเนื้อเรื่องซีเรียส ทางทีมงานเลยอยากจะเปลี่ยนอิมเมจซะใหม่แต่เราก็ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถ้ามองย้อนไปยัง FF ภาคแรกจะรู้ว่ามันเป็นเกมที่ตลกและปัญญาอ่อนมาก แต่ภาคต่อๆมากลายเป็นว่ามีแต่เนื้อเรื่องเครียดๆ ภาค X-2 ได้ทำให้ทีมงานตระหนักว่ายังมีความเป็นไปได้มากมายใน Final Fantasy และเราก็รู้ว่ามีทางเลือกมากมายในการทำภาคเสริมของ 7 ถ้าไม่มี X-2 เราคงคิดแต่จะทำ RPG แนวเดิมๆอย่างเดียว

EGM      : คุณเคยบอกว่าตอนทำภาค X นั้นยากมาก แต่ตอนทำ X-2 รู้สึกสนุก แล้วตอนทำ DC เป็นไงบ้างครับ?

Kitase    : เกมนี้ยังลงบน PS2 ในทางเทคนิคแล้วก็เลยไม่มีอะไรยุ่งยากนัก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราทำเกม action ยิงปืน เราชำนาญทำแต่เกม RPG แต่เกม action ยิงปืนนี้เราต้องมาเริ่มกันใหม่ มีหลายๆเรื่องที่เราต้องกลับมาแก้ไขกันหลายๆรอบ

EGM      : รีฟปรากฎตัวใน DC ชุดที่เขาใส่มีความหมายอะไรไหมครับ?

Kitase    : แค่เสื้อผ้าธรรมดาครับ

EGM      : อ้อ รีฟเป็นผู้นำกลุ่ม WRO ช่วยเล่าเรื่องกลุ่มที่ว่าให้ฟังด้วยครับ

Kitase    : เป็นกลุ่มที่อาสาฟื้นฟูโลกหลังชนเมเทโอ ในทีแรกเป้าหมายของกลุ่มก็เพื่อเข้าไปฟื้นฟูเมืองที่ถูกทำลายในที่ต่างๆ แต่ในเนื้อเรื่อง DC มีศัตรูปรากฏตัว สมาชิก WRO ได้สร้างกองทัพอาสาเพื่อต่อสู้กับพวกมัน

EGM      : คนสีน้ำเงินตัวใหญ่ที่ชื่ออาซูลเป็นตัวร้ายหลักของภาคนี้หรือเปล่า?

Kitase    : เขาไม่ใช่ศัตรูหรือบอสที่เก่งที่สุดในเกมแน่นอน ในเกมนี้มีกลุ่มศัตรูที่เรียกว่า Deep Ground Soldier และอาซูลเป็นโซลเยอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ในทีแรกพวก DG Soldier จะเก่งพอๆกัน แต่พวกมันจะสู้กันเองจนบางคนแข็งแกร่งขึ้นและมีตำแหน่งในกลุ่มสูงขึ้น บางคนก็ถูกลดตำแหน่งในกลุ่มลง

EGM      : ใน online ranking mode จะเอาเหรียญตราได้ยังไง?

Kitase    : มีเงื่อนไขหลายๆอย่าง อย่างเช่นได้เป็น MVP ของการต่อสู้จะได้เหรียญตรา หรือคนที่สู้ได้แย่มากๆจะได้เหรียญเลว

EGM      : เหรียญตรามีผลต่อความสามารถตัวละครหรือเปล่า? หรือแค่เอาไว้โชว์เฉยๆ

Kitase    : ไม่มีผลอะไรทั้งสิ้นครับ

EGM      : ในเกมออนไลน์ปกติจะมีการรักษาระดับ level แต่ใน DC online จะมีอาวุธหรือเกราะที่ทำให้ตัวละครเก่งขึ้น แบบนี้มือใหม่จะสู้ตัวที่มีอุปกรณ์ดีๆได้ยังไง?

Kitase   : ผู้เล่นสามารถตั้งเงื่อนไขการต่อสู้ได้ อย่างเช่นห้ามใช้อาวุธแรงๆหรือแมทช์ที่มีเฉพาะผู้เล่นเก่งๆมาเจอกัน แต่คนที่มีอาวุธดีๆก็ยังสามารถเจอคนมืออ่อนๆได้ถ้าต้องการ

EGM      : ระบบการเล่นอะไรบ้างที่สามารถเล่นออนไลน์ได้

Kitase    : มี 3 โหมด – Team v.s. Team, free-for-all deathmatch และ mission mode ซึ่งให้ทีมๆหนึ่งเจอกับบอส

EGM      : คิดเรื่องขนาดของทีมหรือยังครับ?

Kitase    : เรารอผลการทดสอบอยู่ คิดว่าสองทีมรวมกันคงเล่นได้ 20-30 คน

EGM      : ตอนนี้พอนึกถึงชื่อคุณก็จะคิดถึงเกม FF ทันที ถ้าคุณจะสร้างเกมในฝันที่ไม่ใช่ FF คุณจะสร้างเกมแบบไหนครับ?

Kitase    : ในส่วนของเนื้อเรื่องผมคงยังตอบอะไรไม่ได้ แต่ในส่วนของระบบการเล่น ผมเป็นแฟนตัวยงของเกมยิงปืนแบบที่ผมกำลังสร้างอยู่ตอนนี้ ผมชอบเล่น FPS อย่าง Half-Life2 ถ้าจะสร้างเกมในฝันผมคงสร้างเกมแนวนี้

EGM      : คุณฮิโรโนบุ ซาคากุจิ ผู้ให้กำเนิด FF ออกจาก Square ไปตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Mist Walker แล้ว บริษัทเขาผลิต RPG ให้ XBOX360 2 เกม เรื่องการแข่งขันกับบิดาแห่ง FF ในตลาดเกมคอนโซลยุคหน้านี้คุณมีความเห็นยังไงบ้างครับ?

Kitase    : บางทีผมก็ออกไปกินข้าวกับคุณซาคากุจิ เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาชอบพูดกับผมประมาณว่า “เรามาพัฒนาคุณภาพไปพร้อมๆกัน เติบโตรุ่งโรจน์ไปพร้อมๆกัน และทำงานของเราให้ลุล่วงไปพร้อมๆกันเถอะนะ” แต่ก่อนจะเป็น Square-Enix ที่เราเป็น Squaresoft ในบริษัทเราเองมีทั้ง Mana, Saga และ Final Fantasy ที่แต่ละทีมต่างแข่งกันพัฒนาเกมที่ดีขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ก็คงเหมือนๆกัน หลังคุณซาคากุจิออกไปเราก็ยังคงอยากจะทำเกมที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างประทับใจ ตลาดญี่ปุ่นตอนนี้ค่อนข้างจะอิ่มตัว เพราะฉะนั้นการมีคู่แข่งเพื่อกระตุ้นให้ทำงานให้ดีที่สุดก็เป็นเรื่องที่ดี


<กลับไปหน้าหลัก>


Web Content by Shiryu
This site is best viewed in Firefox with a resolution of 1024x786