FFVII Advent Children
~distance~
- บทสัมภาษณ์ทีมสร้าง Advent Children จาก
Special Feather DVD (2005) -

Tetsuya Nomura (director)
"เราสร้าง advent children
ขึ้นมาเพราะภาค 7
นี้ถือเป็นยุคของการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ และมีความสำคัญต่อเรามาก
มีการเปลี่ยนแปลงในเกมหลายอย่าง ที่สำคัญคือเกมได้เปลี่ยนเป็นแบบ 3
มิติ ซึ่งพวกเราต่างก็ชื่นชอบเกมนี้ในแง่มุมต่างๆ
แล้วพวกเราก็เหลือแค่สองทางเลือก
จะกลัวแล้วทิ้งโปรเจ็คต์นี้ไปเฉยๆหรือจะทำต่อ
ซึ่งเราก็เลือกที่จะทำ"

Yoshinori Kitase (producer)
"คุณโนมุระ, โนซุเอะ และโนจิม่าได้เขียนบทร่วมกัน
ตอนทำเกมหลายๆไอเดียถูกจำกัดด้วยความสามารถของเครื่องในตอนนั้น
แต่ตอนนี้เราสามารถสื่อความคิดออกมาทางสีหน้าท่าทางตัวละครได้อย่างเต็มที่
และเราจะแสดงให้เห็นว่าเราก้าวข้ามขีดจำกัดในอดีตมาได้แล้ว"
Tetsuya Nomura
"ตอนอ่านบทของคุณโนจิม่าสำหรับทำหนัง
20 นาทีผมชอบมันมากเลย เรื่องมีอยู่ว่าคลาวด์ได้รับข้อความจากหญิงสาวคนหนึ่งผ่านทางพวกเด็กๆ
แล้วก็เฉลยออกมาในตอนจบว่าเป็นข้อความของใคร"

Kazushige Nojima (scenario
writer)
"พอผมรู้เรื่องโปรเจ็คต์ AC
ทีแรกผมกลัวว่าจะไม่ได้ร่วมงานนี้มาก
และคุณโนมุระก็ไม่ได้มาพูดอะไรเลย
แต่ผมอยากทำงานนี้มากผมจึงเสนอตัวขอทำเองเลย
ตอนนั้นผมคิดอยู่อย่างเดียวว่า ฉันต้องทำแบบนี้หละ!
"
Tetsuya Nomura
"เราทำแต่เกมแต่เราไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน
เราไม่มีตัวอย่างให้ใช้อ้างอิง ไม่รู้จะเริ่มยังไง ตอนทำ AC
เราใช้ประสบการณ์จากการทำ FMV
ประกอบเกมเป็นส่วนใหญ่"

Takeshi Nozue (co-director)
"ผมแนะคุณโนมุระให้เราแสดงภาพตัวละครและบรรยากาศให้ออกมาเป็นแนวเดียวกัน
เราจะไม่ทำให้มันเหมือนจริงจนเกินไป เพราะถ้าเหมือนจริงไปเลย
สิ่งที่เราทำก็กลายเป็นแค่หนังแอ็คชั่นเรื่องหนึ่ง โดยทั่วไปแล้ว
CG Movie
จะพยายามสร้างให้เหมือนของจริงแต่เราไม่เอาอย่างนั้น ตอนสร้าง
AC เราต้องการให้มันเป็นโลกของ
FFVII ในอีกรูปแบบหนึ่ง"
Tetsuya Nomura
"เราต่างก็เห็นพ้องกัน
เราจะไม่สนใจว่า เฮ้ย
มนุษย์กระโดดได้สูงขนาดนั้นเลยเรอะ!? เฮ้ย
คนลอยอยู่กลางอากาศได้นานขนาดนั้นเลยเรอะ!?
เราต้องการแค่ให้ภาพมันออกมาดูเจ๋งแค่นั้น"

Takayuki Takeya
(mechanical/creature designer)
"ตอนออกแบบมอเตอร์ไซด์คลาวด์ทีแรกผมก็ถูกบีบด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง
แต่ก็ออกแบบขึ้นมาเป็นแบบของตัวเองได้
ตัวเครื่องออกจะใหญ่อยู่สักหน่อยแต่ก็เหมาะสมกับงานแบบนี้ดี"

Jun Matsui (tattooist)
"นี่เป็นโลกแห่งแฟนตาซีและรอยสักดูเป็นของโบราณ
ผมต้องออกแบบลวดลายให้ดูเป็นแนวอนาคต งานนี้เลยพิเศษอยู่สักหน่อย
แต่ผมก็ตั้งใจออกแบบจนมันออกมาดูน่าสนใจ ทาง producer
จะลองสักดูบ้างก็ได้นะครับ (หัวเราะ)"
Tetsuya Nomura
"คุณนาโอระเคยทำ art work
ให้งานเก่า FFVII มาแล้ว
มีหลายๆอย่างที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ของใหม่ ยกเว้นเมืองเอดจ์ที่เป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นใหม่และใช้เป็นสถานที่หลักในภาคนี้
"

Yuzuke Naora (art director)
"เมืองมิดการ์กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว
เราต้องออกแบบตอนมิดการ์พังขึ้นมาอีก
ต้องคิดเรื่องผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นว่าจะมีชีวิตอยู่แบบไหน
จะมีความรู้สึกยังไง มันเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก คลาวด์เองก็เคยอาศัยอยู่ในเมืองนี้และเมืองนี้ก็เป็นจุดจบของเรื่องราวในภาคแรก
หลังเหตุการณ์นั้นพวกเขาสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นและใช้มันเป็นศูนย์กลางในการสร้างเมืองใหม่"

Nobuo Uematsu (composer)
"ผมเขินที่จะพูดแบบนี้นะ
...คือผมต้องการสื่อให้รู้สึกถึงมิตรภาพ, ความรัก
และคุณค่าของชีวิต สำหรับเพลง One-winged Angel
เวอร์ชั่น AC
เป็นงานที่แตกต่างไปจากที่เคยทำมาเลยต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ
ยิ่งช่วง intro ที่เป็นเสียง
Chap-Chap-Chap นี่เป็นเอกลักษณ์ของเพลงนี้เลย
ส่วนตัวเสียงร้องผมก็นึกอยู่ว่าพอให้ Jimi Hendrix
จาก Purple Haze
ร้องมันจะเป็นยังไง แล้วพอได้ฟังผมก็ชอบมันนะ"
Takahiro Sakurai (voice actor
Cloud)
"งานที่ทำออกมาเยี่ยมมาก
ผมไม่เคยตื่นเต้นเท่านี้มาก่อนเลย
มีหลายๆคนบอกว่าน่าจะใส่อารมณ์ให้มากกว่านี้
แต่ผมคิดว่าการลดเสียงลงแล้วพากย์แบบนี้แหละถึงจะดูเป็นคลาวด์"
Ayumi Ito (voice actor Tifa)
"ฉันอยากทำงานพากย์มานานแล้วแต่ก็ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเกมนี้เท่าไหร่
ตอนที่ผู้กำกับอธิบายรายละเอียดทีแรกฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจ
ยกตัวอย่างเช่นเราใช้เวลาตอนพากย์ 5
ชม.จะต้องเสียเวลาไปกับการทำความเข้าใจรายละเอียดสัก 3-4 ชม.
แต่หลังจากนั้นฉันก็สามารถพากย์ออกมาจากใจได้
และฉันรู้สึกว่าฉันพากย์ได้แบบที่ผู้กำกับต้องการแล้ว"
Shotaro Morikubo (voice actor -
Kadaj)
"บทนี้เป็น 1 ใน 3
บทที่ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยพากย์มาเลย
การเข้าถึงตัวละครนั้นเป็นเรื่องยากที่เราไม่สามารถทำได้ใน 1-2 วัน
ผมทำงานพากย์เรื่องนี้มา 1 ปีเต็มๆ
ค่อยๆใช้เวลาทำความเข้าใจตัวละครและบทพูดทุกๆประโยคจึงจะสามารถพากย์ออกมาได้เต็มที่"
Tetsuya Nomura
"คุณคิตาเสะต้องการให้ภาพการปรากฏตัวของเซฟิรอธอกมาดูยิ่งใหญ่
ให้เขาดูอยู่เหนือสรรพสิ่งทั้งมวล
เราต้องมานั่งคิดกันหัวแทบระเบิดว่าจะให้เซฟิรอธกลับมายังไงดี
ทีแรกเราคิดกันว่าจะให้กลุ่มชายผมเงิน 3 คนรวมร่างกันเป็นเซฟิรอธ
แต่แบบนั้นมันดูตลกเกินไป คาดาจจะเป็นเซฟิรอธที่แตกต่างไปจากตัวเดิม
เขาจะฉลาดและโหดเหี้ยม
ในขณะเดียวกันก็มีอารมณ์แปรปรวนและมีความไร้เดียงสาแบบเด็กอยู่ในตัว"
Kazushige Nojima
"คาดาจยังเป็นเด็กอยู่
เนื้อเรื่องจะเป็นเหตุการณ์หลังจากในเกม 2 ปี และคลาวด์เติบโตขึ้น
ครั้งนี้ผมอยากให้เขาสู้กับศัตรูที่เด็กกว่า"

Tetsuya Nomura
"จากบทของคุณโนจิม่าเด็กๆเป็นส่วนสำคัญของเรื่องนี้
การเปลี่ยนแปลงจากเด็กเข้าสู่วัยรุ่นเป็นช่วงสำคัญที่มีผลต่อความสำนึกรักและเกลียดชัง
คาดาจมีความรู้สึกที่รุนแรงต่อชะตากรรมและความมีตัวตนของตนเอง"

"ส่วนคลาวด์ 2
ปีผ่านไปเขาพยายามจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแต่ก็ล้มเหลว
เขาสูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป
ด้วยประสบการณ์ที่เลวร้ายนี้เขาจึงหวาดกลัว
กลัวว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปอีกและกลายเป็นคนโดดเดี่ยว"

"ธีมของ FFVII
คือชีวิต และใน AC จะสื่อธีมนี้ออกมาด้วย
ไลฟ์สตรีมมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตอย่างมาก
มันเป็นสายธารที่บรรจุความมีตัวตนของชีวิตเอาไว้
เมื่อมันควบแน่นเป็นมาทีเรียจะมีพลังที่ทำให้สามารถใช้เวทมนต์และมนต์อัญเชิญได้
ทั้งจากเนื้อเรื่องในเกมและใน AC
จะกล่าวอยู่เสมอว่าแม้จะตายไปแล้วความมีตัวตนก็ยังคงอยู่ ใน
AC คลาวด์ได้พบกับแอริธหลายครั้ง
แสดงให้เห็นว่าความมีตัวตนของคนที่ตายไปแล้วก็ยังคงเหมือนกับของคนที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง"
Kazushige Nojima
"มันช่างประจวบเหมาะจริงๆ
ผมเพิ่งมีบุตร เหมือนเป็นการหลงเหลือสายเลือดของผมไว้บนโลกนี้
และยายผมก็เพิ่งเสียไปด้วยโรคชรา
มีคนเดินเข้ามาและจากไปจากชีวิตเราอยู่ตลอด
นั่นทำให้ชีวิตนั้นน่าสนใจ"

"การให้อภัยไม่ใช่เรื่องง่าย
และการขอรับการอภัยจากผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า คลาวด์ต้องลำบากในการเยียวยาบาดแผลในใจ
แต่เขาก็พยายามสู้ไม่หยุด และก็สามารถก้าวข้ามมันได้สำเร็จ
เขาได้รับการอภัยและไปถึงสันติภาพแห่งจิตใจได้ในที่สุด คลาวด์เป็นคนที่ต้องเผชิญเรื่องราวร้ายๆมามาก
ในชีวิตจริงของพวกเราหลายๆคนก็เหมือนกัน
และเราก็ควรสู้ให้ถึงที่สุดเหมือนที่คลาวด์สู้"

Tetsuya Nomura
"คลาวด์ติดค้างหนี้บุญคุณมากมาย
และล้วนเป็นหนี้ที่แสนหนักหน่วง
นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องก้าวข้ามไปให้ได้ แท้จริงแล้วคลาวด์เป็นคนที่อ่อนแอมาก
สำหรับเด็กๆแล้วฮีโร่ต้องไม่มีจุดอ่อน ทำไมผมถึงทำให้คลาวด์ดูไม่ได้เรื่องน่ะเหรอ?
มองในมุมกลับกันผมว่ามันจะแสดงถึงความเป็นมนุษย์ได้มากกว่า
เขาก็เป็นฮีโร่อีกประเภทหนึ่ง ฮีโร่ที่อ่อนแอ
แต่จะเข้มแข็งขึ้นเมื่อต้องการปกป้องบางสิ่งบางอย่าง"
Nobuo Uematsu
"ตอนอ่านบทผมเห็นคำว่า "คลาวด์ยิ้ม"
ก็ตกใจ หา!
คลาวด์ยิ้มเหรอ?
ถ้าคุณเคยเล่น FF7
มาแล้วคุณคงจินตนาการไม่ออกว่ายิ้มของคลาวด์จะออกมาเป็นแบบไหน
ผมเองก็เหมือนกัน แต่ผมก็คิดว่ามันคงยอดมากเลย แล้วคำว่า
Cloud's Smile
นี่แหละเป็นแรงกระตุ้นให้ผมแต่งเพลงนี้อย่างเต็มที่"

Tetsuya Nomura
"ผมชอบฉากที่คลาวด์ถูกรายล้อมด้วยเด็กๆ
คลาวด์ไม่ได้พูดอะไรแต่ก็มองพวกเด็กๆแล้วก็ยิ้มแบบอายๆ
ฉากนี้แหละที่ผมอยากทำ
และเป็นตอนที่ผมชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนี้"
<กลับไปหน้าหลัก>