เจโนวาคือสิ่งมีชีวิตจากห้วงอวกาศที่ตกลงมาบนดวงดาวพร้อมกับอุกาบาตเมื่อราว
2000 ปีก่อน เกิดเป็นเครเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้นทางตอนเหนือ
เจโนวามีความสามารถในการอ่านความทรงจำและความรู้สึกผู้คนพร้อมจำแลงกายได้
ทีแรกมันมีท่าทีเหมือนจะเป็นมิตรกับชาวเซทราซึ่งปกครองดวงดาวอยู่ในขณะนั้น
แต่ด้วยสัญชาตญาณที่มีแต่การทำลายล้าง มันได้ปล่อยไวรัสออกมาเล่นงานผู้คนจำนวนมากให้เปลี่ยนร่างเป็นมอนสเตอร์
หนึ่งในความสามารถที่น่าหวาดกลัวทีสุดของเจโนวาคือการรียูเนี่ยน
(กลับรวมเป็นหนึ่งเดียว)
แม้เซลล์ของมันจะแยกกระจายออกไปแต่ก็ยังคงลักษณะความมีตัวตนของเจโนวาอยู่
มันจะรุกรานเซลล์ข้างเคียงให้รับอิทธิพลบางอย่างซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่ตัวโฮสต์
เซลล์ทั้งหมดสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้และมีสัญชาตญาณที่จะพยายามกลับมารวมกันเป็นร่างเดียวกันอีกครั้ง
นั่นทำให้โฮสต์ที่รับเซลล์เข้าไปมีแนวโน้มจะถูกอำนาจของเจโนวาชักจูงให้มารวมตัวกัน
ชาวเซทราที่พยายามช่วยดวงดาวฟื้นฟูบาดแผลจากการปะทะได้ถูกเจโนวาเล่นงานจนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
ดวงดาวรับรู้ถึงวิกฤตการณ์ครั้งนี้และได้สร้างเวพ่อนเป็นอาวุธที่จะทำลายล้างเจโนวา
แต่เซทราก็สามารถผนึกเจโนวาได้สำเร็จเสียก่อน ทำให้เหล่าเวพ่อนตกงานและดวงดาวต้องผนึกมันเอาไว้ในกำแพงมาทีเรียทางตอนเหนือ

บริเวณที่เจโนวาตกลงมาเกิดเป็นเครเตอร์ขนาดใหญ่
เวลาผ่านไปนับพันปี จนกระทั่งในปี
[µ]-εγλ
1959
บริษัทชินระได้ขุดพบพลังงานมาโคซึ่งสามารถประยุกต์ใช้งานได้สะดวกสบายทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นชินระได้ออกเสาะหาแหล่งพลังงานมาโคและสร้างเตาปฏิกรณ์ขึ้นตามที่ต่างๆของดวงดาว
ชินระเชื่อว่าดินแดนแห่งพันธสัญญาที่ถูกล่าวขานในตำนานนั้นมีพลังงานมาโคอยู่อย่างมหาศาล
ทำให้พวกเขาต้องการออกตามหาดินแดนแห่งพันธสัญญาแม้หลายๆคนจะคิดว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝัน
โดยตำนานเล่าว่าผู้ที่จะตามหาดินแดนแห่งพันธสัญญาได้ก็คือชาวเซทรา
หรือที่มนุษย์ปัจจุบันเรียกกันว่าเผ่าโบราณ
แต่เผ่าโบราณที่ใกล้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์เต็มทีก็หายากเต็มทน

ร่างของเจโนวาที่ชินระขุดพบ
ในปีเดียวกันนี้
พวกเขาก็ได้ขุดพบร่างของเจโนวาที่ถูกผนึกอยู่ในชั้นหินอายุสองพันปี
ชินระเข้าใจว่าเจโนวาคือเผ่าโบราณ
จึงมีความคิดที่จะสร้างมนุษย์ที่มีความสามารถของเผ่าโบราณขึ้นมาด้วยการฉีดเซลล์ของเจโนวาที่ทำการปรับปรุงให้เข้ากับร่างของมนุษย์ได้
จึงเกิดเป็นโครงการวิจัยขนาดใหญ่ขึ้น
ประกอบด้วยหลายโครงการย่อยที่ภายหลังจุดประสงค์ของแต่ละโครงการก็แตกต่างกันออกไป
ทุกโครงการที่เกี่ยวข้องกับการใช้เซลล์ของเจโนวาถูกเรียกรวมๆว่าโครงการเผ่าโบราณ
หรือชื่อที่คนส่วนใหญ่เรียกกันก็คือ
เจโนวาโปรเจ็คต์
โครงการเริ่มดำเนินไปอย่างจริงจังเมื่อราวๆ 30
ปีก่อน ศจ.กัสต์
นักวิทยาศาสตร์อันดับหนึ่งของชินระผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์เป็นหัวเรือของโครงการ
การทดลองส่วนใหญ่อยู่ในห้องแล็บใต้คฤหาสน์ชินระในนีเบิ้ลไฮม์
โดยมีสมาชิกคนสำคัญประกอบด้วย กัสต์ โฮโจ ฮอลันเดอร์ และลูเครเซีย
ต่อมากัสต์พบความจริงที่ว่าเจโนวาไม่ใช่เผ่าโบราณและรู้สึกผิดกับการเอามนุษย์มาทดลอง
จึงปลีกตัวออกจากโครงการและหนีจากชินระไป
Project G
โปรเจ็คต์
G
คือโปรเจ็คต์ของฮอลันเดอร์ที่สร้างมนุษย์ทดลองจากการฉีดเซลล์เจโนวาเข้าไปในร่างจิลเลี่ยน
จากนั้นนำเซลล์จิลเลี่ยนมาฉีดให้มนุษย์
มีมนุษย์ทดลองที่เกิดจากโครงการสองคนคือเจเนซิสซึ่งเกิดจากการนำเซลล์ของจิลเลี่ยนฉีดเข้าไปในครรภ์ของแม่เจเนซิส
และแองจีลซึ่งปฏิสนธิภายในร่างของจิลเลี่ยนเอง โดยแองจีลนี้เป็นลูกชายแท้ๆของฮอลันเดอร์และจิลเลี่ยน
ตัว
G
ในที่นี้หลายคนในชินระเข้าใจว่ามาจาก
Genesis แต่แท้จริงแล้วมันมาจาก Gillian
เจ้าของเซลล์ที่ใช้ในโปรเจ็คต์ต่างหาก แองจีลและเจเนซิสเป็นสองคนที่รอดจากโปรเจ็คต์นี้และถูกเรียกว่าโซลเยอร์ไทป์
G
เซลล์ของเจโนวาในร่างของโซลเยอร์ไทป์
G
ยังคงมีความสามารถในเปลี่ยนแปลงสภาพของเจโนวาหลงเหลือ
จึงทำให้เกิดสภาวะเสื่อมสลายที่ร่างกายจะค่อยๆเสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆโดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะผิว
กล้ามเนื้อ และสีผม ดังที่เจเนซิสเป็น
และหากทำการถ่ายทอดเซลล์ไปยังผู้อื่นร่องรอยของการเสื่อมสลายในตัวโฮสต์ลำดับรองๆลงไปจะมีมากขึ้น
แองจีลมีความสมบูรณ์แบบมากกว่าเจเนซิสร่างของเขาจึงไม่เกิดการเสื่อมสลาย
แต่เมื่อถ่ายทอดเซลล์ของเขาไปยังร่างอื่น ก๊อปปี้ของเขาก็ยังเกิดการเสื่อมสลายอยู่ดี

ฮอลันเดอร์เลือกใช้เลือดของแองจีลในการรักษาเจเนซิสเนื่องจากเป็นโซลเยอร์ไทป์
G เหมือนกัน
หลังโปรเจ็คต์
G
ล้มเหลว จิลเลี่ยนได้พาตัวแองจีลหนีออกจากชินระ
แต่ถูกจับกุมไว้ได้และส่งตัวมายังบาโนร่า
เธอได้พบกับชายคนหนึ่งและแต่งงานกัน แม้พ่อเลี้ยงของแองจีลจะยากจน
แต่จิลเลี่ยนกลับปฏิเสธไม่ยอมรับเงินช่วยเหลือจากชินระ
และร่วมกับสามีปิดเรื่องชาติกำเนิดของแองจีลไว้เป็นความลับ ทางด้านเจเนซิสถูกส่งไปให้เจ้าของที่ดินบาโนร่าเลี้ยงดู
เจเนซิสพบเหมืองมาโคเก่าของชินระใต้บาโนร่าและใช้ที่นี่เป็นฐานลับของเขาตั้งแต่เด็ก
ซึ่งภายหลังฮอลันเดอร์และเจเนซิสได้ใช้ที่นี่เป็นห้องทดลองและผลิตตัวก๊อปปี้
ในบาโนร่ามีหลายคนทำงานให้ชินระและประสบความสำเร็จ
อีกทั้งโซลเยอร์ยังมีภาพลักษณ์ที่ดีเรื่องความเป็นมิตรและการปกป้องประชาชน
ทำให้เจเนซิสสมัครเข้าโซลเยอร์ก่อนแองจีลจะตามมา
ทั้งคู่กลับมาอยู่ในวงจรของชินระอีกครั้งทั้งที่ผู้ปกครองของทั้งสองคนไม่เห็นด้วย
การเสื่อมสภาพของตัวเจเนซิสจะเร่งสภาวะเสื่อมสลายในตัวก๊อปปี้ทั้งหมดด้วย
และในกรณีฮอลันเดอร์ที่ฉีดเซลล์ของเจเนซิสเข้าร่างตัวเองนั้น
จะเกิดสภาวะเสื่อมสลายเร็วมากเพราะความสามารถทางกายของเขาต่ำกว่าเจเนซิสมากตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
แม้สภาวะเสื่อมสลายนี้จะทำให้สูญเสียตัวตนไปเรื่อยๆจนบ้าคลั่งและทำให้ความสามารถในการต่อสู้สูงขึ้น
แต่ก๊อปปี้หลายๆตัวก็เปลี่ยนสภาพเป็นมอนสเตอร์ไปอย่างที่เห็น
ร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสส่วนใหญ่สร้างจากพวกโซลเยอร์
2nd และ 3rd
class ที่ออกจากชินระมาพร้อมกับเขา ในขณะที่พวกก๊อปปี้ของแองจีลส่วนใหญ่จะสร้างขึ้นจากมอนสเตอร์และลาซาร์ดซึ่งถูกฉีดเซลล์ของแองจีลเข้าไปจนหน้าแก่เป็นแองจีล
ส่วนมอนสเตอร์จะไม่เปลี่ยนสภาพเป็นแองจีลแต่จะมีใบหน้าของแองจีลผุดขึ้นบนร่างกายแทน
พวกก๊อปปี้จะอ่อนแอกว่าร่างต้นแบบและจิตใจจะถูกควบคุมโดยร่างต้นแบบได้
ยกเว้นกรณีของลาซาร์ดที่จิตใจเข้มแข็งพอ
ทำให้เขายังคงเป็นตัวของตัวเองหลังรับเซลล์ของแองจีลมาแล้ว
และเขายังรู้สึกถึงเจตนารมณ์ของแองจีลที่ถ่ายทอดมายังตัวเขาทำให้เขาละความแค้นที่มีต่อชินระและเกิดความรู้สึกต้องการช่วยเหลือโลก
นอกจากนี้ก๊อปปี้ของแองจีลยังสามารถรับรู้สถานการณ์ของก๊อปปี้ตัวอื่นๆได้
มอนสเตอร์ที่อยู่ในโบสถ์สลัมจึงบินมาช่วยลาซาร์ดตอนเผชิญหน้ากับทหารชินระในตอนจบ
Crisis Core
ซึ่งก็ทำให้จดหมายฉบับที่ 89 ของแอริธมาถึงมือแซ็คด้วย
นอกจากเจเนซิสและแองจีลแล้ว
ที่ชั้นใต้ดินของสำนักงานใหญ่ยังมีการทดลองใช้ยีนส์ของเจเนซิสสร้างโซลเยอร์ที่มีความสามารถหลากหลายและผ่านการฝึกฝนที่โหดเหี้ยมจนเก่งกาจ
พวกที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมียีนส์ของเจเนซิสอยู่ในร่างนี้เรียกเจเนซิสว่า
พี่ชาย
และมีพลังความสามารถเหนือทหารดีพกราวด์ธรรมดาคนอื่นๆ
คนส่วนมากรู้จักเจเนซิสในฐานะตัวตนลึกลับที่มีโค้ดเนม G
โซลเยอร์ผู้จองจำตัวเองเพื่อปกป้องดวงดาว
และอยู่ในระดับเดียวกับ S
(เซฟิรอธ) โซลเยอร์ผู้ทำลายล้างทุกสิ่ง
Project S
โฮโจได้ทำการปรับปรุงเซลล์ของเจโนวาเพื่อให้มีความเข้ากันได้กับมนุษย์ก่อนฉีดเซลล์ดังกล่าวเข้าไปในครรภ์ของลูเครเซีย
เด็กคนนี้ถูกตั้งชื่อว่าเซฟิรอธ เขาเป็นลูกชายของลูเครเซียและตัวโฮโจเอง
ผลการทดลองออกมายอดเยี่ยม เซฟิรอธไม่เกิดสภาวะเสื่อมสลาย
และเซลล์ยังมีความเสถียรไม่หลงเหลือลักษณะการจำลองพันธุกรรมของเจโนวาเหมือนเจเนซิสและแองจีล
โปรเจ็คต์นี้ถูกเรียกว่าโปรเจ็ค
S
(Sephiroth)
ซึ่งในทีแรกพนักงานชินระต่างก็เข้าใจกันว่าเซฟิรอธกำเนิดขึ้นมาโดยมีฐานะเป็นเผ่าโบราณ
และความสำเร็จของโปรเจ็คต์นี้ก็ทำใหโฮโจได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์แทนที่กัสต์
แซงหน้าฮอลันเดอร์ไป
การกำเนิดของเซฟิรอธทำให้เกิดการผลิตโซลเยอร์ขึ้นจำนวนมากด้วยการนำคนที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจมาฉีดเซลล์ของเจโนวาและอาบมาโค
ซึ่งนอกจากคนที่เต็มใจมาสมัครด้วยตัวเองแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของเติร์กที่จะไปกวาดต้อนผู้คนจากที่ต่างๆที่ดูมีศักยภาพเข้ามาเป็นโซลเยอร์
คนที่เข้มแข็งพอจะได้เป็นโซลเยอร์
ส่วนคนอ่อนแอหากรับมาโคเข้าไปปริมาณมากเกินที่ร่างกายสามารถรับได้ก็จะสูญเสียตัวตนไป

ภาพเปรียบเทียบโปรเจ็ค
G
และโปรเจ็ค
S
Reunion
หลังเซฟิรอธรู้ชาติกำเนิดตัวเองและบ้าคลั่งจนถูกคลาวด์โยนลงบ่อมาโคตายไปขณะที่กอดหัวเจโนวาไว้แน่น
เขาสร้างร่างตนเองขึ้นมาใหม่ทางตอนเหนือที่พลังงานมาโคไปรวมตัวกันอย่างหนาแน่นและรอที่จะคืนชีพมาอีกครั้ง
ทางด้านโฮโจต้องการทดลองปรากฏการณ์รียูเนี่ยนเพื่อยืนยันทฤษฎีของเขา
จึงได้เตรียมร่างโคลนของเซฟิรอธจำนวนมากไว้โดยนำคนที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์เผาเมืองนีเบิ้ลไฮม์มาใส่เซลล์ของเจโนวาที่ผ่านการปรับปรุงเข้าไปพร้อมอัดมาโคเหมือนกระบวนการผลิตโซลเยอร์
เพียงแต่คนที่จะเป็นโซลเยอร์จะต้องคัดเอาคนที่เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจมาแล้ว
ส่วนชาวบ้านธรรมดาพวกนี้เมื่อผ่านกระบวนการเดียวกันนี้ก็แหลกสลาย
กลายเป็นภานะรองรับความเป็นเจโนวาไป
คนพวกนี้สูญเสียตัวตนและถูกจับแต่งเป็นพวกชุดดำเดินโต๋เต๋ไปทั่วเมืองอย่างไร้ความหมาย
เป้าหมายของพวกมันมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือการทำตามคำสั่งของเซฟิรอธ
และการรียูเนี่ยน โฮโจเรียกการทดลองนี้ว่า
The
Sephiroth Clones Project
โคลนบางตัวจะมีรอยสักที่โฮโจสักไว้ระบุหมายเลข
ซึ่งโคลนมีหมายเลขทั้งหมดที่เราพบใน
FFVII
มีดังนี้:
-
หมายเลข 1
(มีคนเห็นว่ามันเดินทางจากโคเรลเหนือไปยังโกลด์ซอเซอร์)
-
หมายเลข 2
ชายในท่อที่มิดการ์เขต
5
-
หมายเลข 4
ชายชุดดำในบ้านทีฟาที่นีเบิ้ลไฮม์
-
หมายเลข 5
ชายชุดดำในบ้านทีฟาที่นีเบิ้ลไฮม์
-
หมายเลข 6
ชายชุดดำในโรงแรมที่นีเบิ้ลไฮม์
-
หมายเลข 9
ชายชุดดำหน้าวิหารเผ่าโบราณ
-
หมายเลข 12
ชายชุดดำในร้านไอเท็มที่นีเบิ้ลไฮม์
-
หมายเลข 13
นานากิ ซึ่งโฮโจตั้งชื่อให้ว่าเร้ด 13
(ไม่มีผลข้างเคียงจากการทดลอง)
-
ส่วนโคลนตัวอื่นๆไม่มีหมายเลข
คลาวด์และแซ็คเองก็เป็นเหยื่อในการทดลองรียูเนี่ยนนี้
พวกเขาถูกฉีดเซลล์ของเจโนวาที่ผ่านการปรับปรุงเพื่อใช้ในร่างก๊อปปี้ของเซฟิรอธ
เรียกว่า
S-Cell
ซึ่งว่ากันว่ามีลักษณะเหมือนกับเซลล์ของตัวเซฟิรอธเอง
แต่เซลล์ของเจโนวาก็ไม่มีผลกับโซลเยอร์อย่างแซ็คทำให้เขาไม่ได้รับผลอะไรจากการทดลอง
ในขณะที่คลาวด์สูญเสียจิตใจไปเช่นเดียวกับพวกชุดดำตัวอื่นๆ

คลาวด์และแซ็คถูกชินระนำตัวมาทดลองในเจโนวาโปรเจ็คต์
เจเนซิสเชื่อว่าหากเขารับ
S-Cell
ที่พันธุกรรมมีความสมบูรณ์เข้าไปจะสามารถหยุดสภาวะการเสื่อมสลายได้
เขาเคยขอเซลล์จากเซฟิรอธ แต่เซฟิรอธไม่เอาด้วยและเสียชีวิตไปเสียก่อน
แซ็คและคลาวด์ตัวทดลองของโฮโจที่ถูกฉีด
S-Cell
เข้าไป จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของเจเนซิส แต่หลังจากก๊อปปี้ของเจเนซิสตัวหนึ่งกินผมของแซ็คเข้าไปกลับส่งผลเร่งสภาพเสื่อมสลายให้เร็วขึ้นจนบ้าคลั่งและเปลี่ยนสภาพเป็นมอนสเตอร์ให้แซ็คเชือด
เจเนซิสเชื่อว่าคลาวด์เป็นคนมี
S-Cell
บริสุทธิ์คนสุดท้ายของโลก เขาจึงมุ่งเป้ามาที่คลาวด์ทำให้แซ็คต้องคอยปกป้องคลาวด์จากการย่ำยีของโอตาคุเลิฟเลสคนนี้ด้วย
แม้จะรอดมาจนถึงมิดการ์ได้ด้วยการเสียสละของแซ็ค
แต่คลาวด์ก็มีสภาพเป็นเหมือนโคลนชุดดำตัวอื่นๆ คือจิตใจแตกสลาย
จนกระทั่งได้มาพบกับทีฟาที่สถานีรถไฟ
แล้วเจโนวาในร่างก็จำลองความทรงจำของทีฟาสร้างเป็นบุคลิกของคลาวด์ขึ้นมา
แล้วการรียูเนี่ยนก็เริ่มขึ้น
เมื่อร่างไร้หัวของเจโนวาในตึกสำนักงานใหญ่ชินระเปลี่ยนสภาพเป็นเซฟิรอธ
แล้วฆ่าล้างตึก พร้อมกับเปิดกรงขังปล่อยคลาวด์
ซึ่งเป็นโคลนพวกเดียวกันออกมา คลาวด์ได้เผชิญหน้ากับเซฟิรอธตัวปลอมนี้หลายครั้งหลายครา
และมันได้ส่งชิ้นส่วนลงมาสู้กับเขาเป็นระยะๆ

ทีแรกโฮโจคิดว่าการรียูเนี่ยนจะเกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ซึ่งมีร่างของเจโนวาอยู่
แต่จริงๆแล้วมันเกิดที่เครเตอร์ตอนเหนือซึ่งมีหัวเจโนวารวมทั้งร่างของเซฟิรอธอยู่ต่างหาก
โคลนทั้งหมด ทั้งเจโนวาในร่างเซฟิรอธ, พวกชายชุดดำ รวมทั้งตัวคลาวด์เองได้เดินทางมายังเครเตอร์ตอนเหนือ
พวกโคลนนั้นทำตามสัญชาติญาณรียูเนี่ยน ส่วนคลาวด์ตามล่าเซฟิรอธด้วยเรื่องส่วนตัว
แต่เขาก็ถูกหลอกเอาว่าแท้จริงแล้วความทรงจำทั้งหมดของเขามันปลอม
เขาเป็นแค่โคลนที่ถูกสร้างขึ้นมา
และความแค้นทั้งหลายแหล่ก็เป็นแค่ความทรงจำที่คลาวด์ใส่เข้ามาเพื่อให้ตามเซฟิรอธเพื่อมารียูเนี่ยนนั่นเอง

เซฟิรอธสังหารพวกชุดดำที่เข้าร่วมรียูเนี่ยน
การรียูเนี่ยนเสร็จสมบูรณ์
โคลนทั้งหมดกลับมารวมกับส่วนหัวที่เซฟิรอธหิ้วอยู่ และกลายเป็น
Synthesis Jenova
ซึ่งมีพลังที่แท้จริงเหมือนเจโนวาที่เคยกวาดล้างเซทราเมื่อสองพันปีก่อนอีกครั้ง
แต่มันก็ถูกพวกคลาวด์ทำลายอีกหน ก่อนจะตกลงไปในไลฟ์สตรีมพร้อมเซฟิรอธ
ซึ่งก่อให้เกิดไลฟ์สตรีมดำและโรคจีโอสติ๊กม่าขึ้น

ภาพแสดงผังเส้นทางของชิ้นส่วนเจโนวาทั้งหมด
ตัวหนังสือบนหัวเจโนวา
แผ่นเหล็กบนหัวเจโนวามีตัวหนังสือบันทึกของชินระติดไว้ในฐานะหนึ่งในอุปกรณ์ทดลองสำคัญ
ซึ่งในแต่ละภาคที่เจโนวาออกมาตัวหนังสือจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆดังนี้
Final Fantasy VII

MADE IN HONG KONG
ALL RIGHTS RESERVED
1996
SQUER COMPANY LIMITED
(ผลิตในฮ่องกง...
แถมล้อชื่อบริษัทตัวเองแบบเขียนตามเสียงคาตาคานะ
SU-KU-U-e-A = SQUER
อีกต่างหาก...)
Advent
Children

[µ] - εγλ
19591010 ค้นพบ (ภาษาญี่ปุ่น)
[µ] - εγλ
19670702 ผนึก (ภาษาญี่ปุ่น)
(บอกวันที่ค้นพบ
Oct10, [µ] - εγλ
1959 และวันที่บรรจุใน chamber
ที่นีเบิ้ลไฮม์ July2,
[µ] - εγλ 1967)
Last Order

STRICT SECRECY
SCIENTIFIC INQUIRY SECTION
SHIN-RA COMPANY LIMITED
(บอกชื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเจ้าวัตถุทดลองชิ้นนี้)
<กลับไปหน้าหลัก>